รีวิว ทฤษฎีสีชมพู Gap The Series ซีรีส์ไทย แนวโรแมนติก-ดราม่า

รีวิว ทฤษฎีสีชมพู Gap The Series สวัสดีครับเพื่อน ๆ วันนี้เราจะพาเพื่อน ไปรู้จักกับซีรีส์ไทย ที่เคยสร้างปรากฏการณ์อยู่ช่วงนึง โดยเฉพาะคนเอเชีย ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน สำหรับซีรีส์เรื่อง ทฤษฎีสีชมพู Gap The Series 2022 นับเป็นซีรีส์ที่ไม่ได้มีแค่ความสนุกและเอาใจสาย GL อย่างเดียว แต่ยังคงเป็นซีรีส์คุณภาพที่ครั้งนึงในชีวิตคุณควรดูสักครั้ง สิ่งหนึ่งที่ผมชอบมาก ๆ ในเรื่องนี้คือประเด็นเรื่องครอบครัว ความสัมพันธ์ต่าง ๆ พร้อมแง่คิดในการใช้ชีวิตอีกมากมาย ที่จะเสนอผ่านตัวแสดง ม่อน และ หม่อมสาม หรือ คุณสาม เมื่อผู้หญิงจะตกหลุมรักผู้หญิงด้วยกันนั่นมาจากสาเหตุอะไรกันแน่ เรื่องราวในซีรีส์เรื่องนี้จะเป็นอย่างไร? จะสนุกตื่นเต้นอย่างที่หลาย ๆ คนกล่าวหรือไม่? สามารถไปติดตามรับชม ได้ที่เว็บ ดูหนังใหม่

รีวิว ทฤษฎีสีชมพู Gap The Series ซีรีส์แนวโรแมนติก-ดราม่า ที่สร้างมาจากนิยายเรื่อง GAP ทฤษฎีสีชมพู โดยเจ้าปลาน้อย ซึ่งเป็นซีรีส์เกิร์ลเลิฟเรื่องแรกของประเทศไทย นำเสนอเรื่องราวของระยะห่าง (GAP) ระหว่างคนสองคนที่มีความรักให้กัน ไม่ว่าจะเป็นระยะห่างของชนชั้นทางสังคม ระยะห่างของอายุ และระยะห่างของฐานะทางการเงิน โดยเป็นผลงานเรื่องที่สองของค่าย IDOL FACTORY ควบคุมการแสดงและกำกับการแสดงโดย นัฐพงศ์ วงษ์กวีไพโรจน์ นำแสดงโดย สโรชา จันทร์กิมฮะ และ รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง

หม่อมสาม หรือ คุณสาม ผู้หญิงที่เพียบพร้อมไปด้วยรูปลักษณ์ รวยทรัพย์ และสติปัญญา เธอคือผู้หญิงที่ทำให้ ม่อน เติบโตขึ้นมาและอยากจะเป็นให้ได้แบบนั้น ม่อนถึงขนาดยอมสมัครเข้ามาทำงานที่เดียวกันเพื่อจะได้อยู่ใกล้ชิด อาจจะเพราะตอนเด็ก ๆ ม่อนฝังใจกับรอยยิ้มกว้างจนหน้ายับไปหมดแบบนั้น จนมันกลายเป็นความรักในรูปแบบที่ม่อนก็ไม่อยากจะเชื่อ ว่าผู้หญิงสามารถตกหลุมรักกับผู้หญิงด้วยกันเองได้

แต่เพราะเราแตกต่างกันเกินไป ทั้งฐานะชาติตระกูลและอายุที่ห่างกันถึง 8 ปี มิหนำซ้ำยังเป็นเพศเดียวกันอีก แค่เริ่มต้นความรักของม่อนก็เป็นไปไม่ได้แล้ว แต่จะทำยังไงล่ะ ก็มันรักไปแล้วนี่นา ถ้าถอยหลังไม่ได้ ก็คงทำได้อย่างเดียวนั่นคือเดินหน้าต่อไป ความแตกต่างเหรอ…มันคงไม่สำคัญเท่ากับหัวใจหรอก ทฤษฎีสีชมพู ep 2

ต้องขอบอกเลยว่าบทของม่อนที่รับบทโดยเบ็คกี้ ทำออกมาได้น่ารัก สมวัย มีมิติ สดใส และการเพิ่มตัวละครที่ไม่เคยมีมาก่อนในหนังสืออย่างยูกิ เพื่อนสนิทของม่อนนอกจากเกริก ก็ทำให้เนื้อเรื่องดูสมเหตุสมผลและน่าสนใจมากขึ้น รวมถึงบทของหม่อมสาม ที่รับบทโดยฟรีน สโรชา ก็มีทั้งความเย่อหยิ่ง ความสวย ความสูงศักดิ์ และความเย็นชา รวมไปถึงออร่าที่ทำให้ทุกคนหวั่นเกรงได้จริงๆ ซึ่งต้องขอบอกเลยว่านักแสดงหลักและนักแสดงสมทบนั้นแสดงออกมาได้ดีและอินกับบทบาทเอามากๆ จนทำให้ทุกอย่างสมจริงไปหมด และมีเหตุมีผลมากด้วย สำหรับใครที่รอติดตามโมเมนท์หวานๆจิ้นๆชวนฟินกระจาย มีตั้งแต่ Episode แรกๆเลยจ้า ซึ่งต่างชาติชอบมาก อินมากและคนจีนก็พูดถึงกันมาก

หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ใช้เลนมองของ straight gaze อยู่เยอะเหมือนกันนะ แต่ถ้าดูสนุก ดูเพลินๆ ดูฆ่าเวลา ดูแบบไม่คิดอะไรก็ได้แหละ เพราะเอาจริงๆชีวิตคนเราก็คงเจอเรื่องที่เครียดมาเยอะเหมือนกันและวันที่เรารู้สึกแย่ๆ รู้สึกหนักๆ เราก็คงอยากได้ขนมปังหวานๆ น้ำตาลสักก้อน เพื่อผ่อนคลายความเครียดและลืมความจริงสัก 5 นาทีหรือ 15 นาที แม้จะเป็นเวลาที่สั้นและสั้นมากๆ แต่ความสุขของคนในจอมันก็ทำให้เราหายเหนื่อยได้บ้างจริงๆ ถ้าดูเอาฟีลนี้ มันก็ได้อยู่นะ เพราะโมเมนท์ฟินๆ ชวนจิ้น มีมาตั้งแต่ก่อนหนังและซีรีส์ออนแอร์เลยและตอนนี้ซีรีส์ก็ออนแอร์แล้วและต้องขอบอกว่าแม้จะปล่อยตัวออกมาแค่สองตอนแต่ก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจและน่าติดตามมากๆในความสัมพันธ์ของคนสองคน ซึ่งจะหวานกันยังไงก็ต้องไปตามกัน ทฤษฎีสีชมพู ep 9

รีวิว ทฤษฎีสีชมพู Gap The Series ม่อน สาวน้อยผู้มีไอดอลในดวงใจคือหม่อมหลวงศมานันท์ อนันตกูล หรือคุณสาม หม่อมหลวงผู้สูงศักดิ์เพียบพร้อมด้วยรูป ทรัพย์ และสติปัญญา ทำให้ม่อนที่เคยรู้จักและได้รับความช่วยเหลือจากคุณสาม ตั้งใจเรียนและพยายามเข้าทำงานในบริษัทที่คุณสามเป็นเจ้าของ เพื่อจะได้พบและใกล้ชิดกับไอดอลในดวงใจอีกครั้ง แต่การพบกันอีกครั้งกลับไม่เป็นไปตามที่ม่อนวาดฝันไว้เมื่อคุณสามกลับเปลี่ยนไปราวกับคนละคนที่เธอเคยรู้จัก แต่ท่ามกลางความกดดันเรื่องงาน ความใกล้ชิดและความรู้สึกคุ้นเคยก็ทำให้ความรักเกิดขึ้นระหว่างคนทั้งคู่ โดยมีสถานะ ชนชั้นทางสังคม อายุ ฐานะทางการเงิน และเพศ เป็นกำแพงกั้นขวางความรักระหว่างทั้งคู่ โดยเฉพาะกำแพงสูงใหญ่ที่มีชื่อว่า หม่อมย่า

เริ่มประกาศเปิดตัวนักแสดงหลักของซีรีส์ในวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2564 โดยประกาศว่าเป็นซีรีส์ยูริ (Yuri) เรื่องแรก ๆ ของประเทศไทย และจัดให้มีการแคสติ้งหานักแสดงที่จะมาร่วมโปรเจกต์ในวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 โดยรอบแรกคัดได้นักแสดงหญิงมา 20 คน จากนั้นก็เข้าสู่ช่วง Workshop พร้อมคัดนักแสดงไปจนสุดท้ายได้นักแสดงหญิงมา 9 คนในรอบสุดท้ายเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2564

แต่หลังจากการปล่อย Trailer Pilot ในวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 ก็โดนกระแสด้านลบในสื่อโซเชียล ทำให้ทางทีมงานต้องทำการปรับบท เปลี่ยนคอสตูม เปลี่ยนโลเคชั่นในการถ่ายทำ และเลื่อนการถ่ายทำออกไป จนได้เปิดถ่ายทำคิวแรกในวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2565 และถ่ายทำคิวสุดท้ายในวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2565 รวมทั้งหมด 26 คิว โดยมีการบวงสรวงในวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 และจัดงาน World Premier ดูตอนแรกพร้อมกันที่เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์รัชโยธิน พร้อมทั้งออกอากาศตอนแรกทางช่อง 3 ในวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ทฤษฎีสีชมพู ep 10

หลังจากออกอากาศตอนแรกเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ซีรีส์ก็ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากในส่วนของโปรดักชั่นไม่ว่าจะเป็นภาพ แสง เสียง ดนตรีประกอบ เครื่องแต่งกาย สถานที่ และอุปกรณ์ประกอบฉาก โดยเฉพาะการแสดงของทีมนักแสดง ทำให้เกิดกระแสการตอบรับกับซีรีส์เกิร์ลเลิฟ (Girl’s Love) ในประเทศไทยจนมีผู้กล่าวว่า GL (Girl’s Love) จะเป็นอีกซอฟต์ พาวเวอร์หนึ่งของประเทศไทยต่อจาก BL (Boy’s Love)

ซึ่งทฤษฎีสีชมพูสามารถติดเทรนทวิตเตอร์รวม 16 ประเทศทั่วโลกทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลาตินอเมริกา อเมริกาเหนือ และยุโรป โดยเฉพาะตอนที่ 9 และ 10 ที่สามารถติดเทรนโลกอันดับ 1 (ข้อมูลจากเว็บไซต์ getdaytrends.com) และได้รับคะแนนใน IMDB ไป 9.1

ส่วนเรตติ้งการออกอากาศในประเทศได้เรตติ้งเฉลี่ยรวม 12 ตอนเท่ากับ 0.395 (ผู้ชมสดประมาณ 260,000) และในช่องทางการรับชมทาง Online ผ่าน 3 PLUS และ True ID มีผู้รับชมเฉลี่ยรวมกับประมาณ 100,000 วิวต่อตอน นอกจากนั้นยังมียอดรับชมย้อนหลังทาง Youtube มากกว่า 600 ล้านครั้ง

เค้าโครงบทประพันธ์ : GAP : ทฤษฎีสีชมพู โดย เจ้าปลาน้อย
กำกับการแสดง : นัฐพงศ์ วงษ์กวีไพโรจน์
แนวละคร : ซีรีส์แนวยูริ
ผลิต : IDOL FACTORY
ผู้จัด : ศุภพงษ์ อุดมแก้วกาญจนา
นักแสดง: สโรชา จันทร์กิมฮะ(คุณสาม), รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง (ม่อน) ฯลฯ

ติดตาม รีวิวละคร ปีกมาร ได้ที่เว็บ รีวิวหนังจีน