รีวิว ใหญ่ ปล้น ฟัด

หนังจีนบู้ สุดยอดหนังแอ๊คชั่นเรื่องนี้ ที่ผม จะนำมาฝากคือ Railroad Tigers ใหญ่-ปล้น-ฟัด เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นคอมเมดี้คลาสสิกของเฉินหลง ที่เสริมทัพด้วยกลุ่มนักแสดงดาวรุ่งที่น่าจับตามอง กำกับการแสดงโดย “ติงเซิง” จาก วิ่งสู้ฟัด และ ใหญ่พลิกแผ่นดินฟัด โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าถึง การแก้แค้นของกลุ่มคนจีนในช่วงปี 1940 สมัยที่ญี่ปุ่นเข้ารุกราน บรรดาชาวจีนถูกทหารญี่ปุ่นเกณฑ์มาสร้างทางรถไฟ ทำให้คนจีนอดอยากยากแค้น เป็นเหตุให้พวกเขารวมตัวกันเพื่อแก้เผ็ดชาวอาทิตย์อุทัย และนี่เป็นที่มาของกลุ่มกองโจร “พยัคฆ์รถไฟ” ที่มีเป้าหมายเพื่อทำให้ญี่ปุ่นต้องอับอาย และขโมยของออกมาช่วยเหลือชาวจีนทั่วไป นำแสดงโดย เฉินหลง ได้ยินชื่อนี้ก็ห้ามพลาดหนังบู้ทั้งหมดด้วยประการทั้งปวงแล้ว ติดตามรับชมได้ที ดูหนังออนไลน์

หลังชมภาพยนตร์ “Railroad Tigers” เสร็จ ผมมีความรู้สึกที่แตกออกเป็นหลายด้าน ทั้งรู้สึกสนุก รู้สึกมันโคตร และรู้สึกน่าเสียดายไปในเวลาเดียวกัน เพราะด้วยหน้าหนังที่ใครที่ได้ชมตัวอย่างหนังมาแล้วคงทราบว่า “Railroad Tigers” เป็นหนังแอ็คชั่นคอมเมดี้ ดูมันส์และฮาในสไตล์ “เฉิน หลง” แต่เนื่องจากหนังดันไปหยิบเรื่องจริงในช่วงสงครามโลกมาถ่ายทอด ผมจึงรู้สึกแอบเสียดายที่มันน่าจะถูกทำให้ดราม่าและเร้าอารมณ์มากกว่านี้ ทั้งๆที่เรื่องราวของหนังมีช่องว่างและโอกาสให้ใส่ประเด็นความดราม่าได้หลายจุดเลย

 

 

หวงจื่อเทา เป็นตัวแทนนักแสดงดาวรุ่ง พูดถึงบทบาทที่ได้รับในครั้งนี้ว่า “ในเรื่องผมรับบทเป็น ‘ต้าไห่’ มีอาชีพเป็นคนตัดเสื้อผ้า และแอบเป็นสมาชิกของกลุ่ม พยัคฆ์รถไฟ ตัวต้าไห่เป็นตัวละครที่ขี้เล่น ที่สำคัญเป็นคนที่มีพลังล้นมากครับ” ส่วนการแสดงหวงจื่อเทาเล่าต่อ “ผู้กำกับ ติงเซิง ไม่ให้ผมอ่านบทเลยครับ แต่จะให้สั่งให้ผมตีความตัวละครของต้าไห่ในฉากที่กำลังถ่ายทำ ก็เลยทำให้ตัวละคร ต้าไห่ ในเรื่องออกมาในแบบที่ผมเข้าใจ นั่นคือ เป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง

ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์รับปีใหม่ สนุกครบรส ฮากลิ้ง ซึ้ง แอ็คชั่น สไตล์ เฉินหลง กับเรื่องราวของประเทศจีนช่วงสงครามปี 1940

เรื่องราวของชาวจีนในช่วงสงครามปี 1940 สมัยที่ญี่ปุ่นเข้ารุกราน บรรดาชาวจีนถูกทหารญี่ปุ่นเกณฑ์มาเพื่อสร้างทางรถไฟ ทำให้ชาวจีนอดอยากแร้นแค้น ขาดอาหารเลี้ยงปากท้อง เป็นเหตุให้กลุ่มคนงานก่อสร้างทางรถไฟอดรนทนไม่ไหว จึงรวมกลุ่มกันเพื่อแก้เผ็ด โดยมีเป้าหมายเพื่อขโมยอาหารและสิ่งของจำเป็น นำมาแจกจ่ายชาวบ้านที่ทนทุกข์เพราะการรุกรานครั้งนี้

 

รีวิว ใหญ่ ปล้น ฟัด

 

รีวิว ใหญ่ ปล้น ฟัด เฉินหลง แนะนำเนื้อเรื่องย่อ

ช่วงสงครามที่อ้างอิงจากประวัติศาสตร์เมื่อปี 1940 ระหว่างจีน และ ญี่ปุ่น ก็ตาม  แต่ก็มีมุขตลกสอดแทรกได้อย่างไม่ยัดเยียดกันเกินไป ไม่ได้ปล่อยมุขกันเรี่ยราดอย่างที่คิดไว้ก่อนดู นักแสดงทุกคนเล่นสุดตัวทุ่มสุดทีนจนดูแล้วอินเหมือนเราอยู่ในแก๊งค์เสื้อบินด้วย และที่เซอร์ไพรสก็คงจะเป็นมากลับมาเล่นหนังอีกครั้งของ เจซี ชาน ลูกชายสุดเลิฟหัวแก้วหัวแหวนของเฉินหลง ที่ก่อนหน้านี้ผ่านมรสุมชีวิตมาพักใหญ่ การลำดับภาพดูแล้วไม่งงเนื้อเรื่องก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร

การสู้รบกันระหว่างกลุ่มคนจีนในลักษณะของกองโจรเล็กๆ กับทหารญี่ปุ่นที่เข้ามารุกรานและใช้พื้นที่เป็นศูนย์กลางในการลำเลียงขนส่งเสบียงของกองทัพ เป้าหมายเดิมของกลุ่มกองโจรในนาม “พยัคฆ์รถไฟ” คือการขโมยเสบียงบนรถไฟญี่ปุ่นขณะลำเลียงขนส่งออกมาให้ชาวบ้าน แต่แล้ววันหนึ่งก็มีนายทหารชาวจีนที่บาดเจ็บจากกองทัพเข้ามาขอความช่วยเหลือและบอกกับทางกลุ่มโจรนั้นว่า เขาเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากภารกิจระเบิดสะพานรถไฟเพื่อตัดเส้นทางการลำเลียงเสบียงของทหารญี่ปุ่น

และเขาได้ฝากฝังภารกิจให้กลุ่มโจรไปแจ้งข่าวความล้มเหลวของภารกิจนี้ให้ทางกองทัพทราบ แต่กลุ่มกองโจรคิดอยากจะสานต่อภารกิจนี้ให้สำเร็จเพื่อเป็นการแก้แค้นพวกญี่ปุ่นที่เข้ามากุมอำนาจในบ้านเมืองของพวกเขา จากภารกิจเล็กๆแบบมือสมัครเล่นเริ่มกลายมาเป็นภารกิจระดับบิ๊กที่เสี่ยงชีวิตมากกว่าเดิม แต่พวกเขายังคงไม่ล้มเลิกและตั้งใจที่จะสานต่อภารกิจนี้ของกองทัพให้สำเร็จ

 

 

ตอนต้นก็เปิดมาให้เรารู้จักกับตัวละครหลักๆ ก่อนจะนำเสนอให้เห็นกลเม็ดการปล้นและวิธีการเอาตัวรอด (เพื่อไม่ให้โดนจับได้) ของพวกเขา ซึ่งแน่นอนว่าตัวเอกก็คือเฮียเฉินหลงของเรานั่นเองครับ  รีวิวหนังจีนออนไลน์

ส่วนไคลแม็กซ์ของเรื่องก็ว่าด้วยการที่กลุ่มโจรก๊กนี้พยายามจะหาทางถล่มรางรถไฟตรงจุดที่เป็นสะพานข้ามหน้าผาน่ะครับ ประมาณว่าหากทำสำเร็จก็จะตัดกำลังพวกญี่ปุ่นไปได้เยอะทีเดียว ว่าตามจริงหนังก็น่าสนใจอยู่ครับ เพียงแต่หนังจับหลายทางมากไปจนสุดท้ายก็ไม่สุดสักทาง คือมันมีครับทั้งตลก, แอ็กชัน, ดราม่า แล้วก็ใส่ฉากลุ้นระทึกลงไป แต่โทนหนังมันก้ำกึ่ง ดูทีเล่นทีจริงจนพอดูจบผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าผมควรจะรู้สึกยังไงดี

คือปมของเรื่องรวมถึงภารกิจของเหล่ากองโจรจริงๆ มันก็คอขาดบาดตายนะ เพราะมันคือการต่อสู้ของชาวจีนกับพวกญี่ปุ่นสมัยสงครามโลก ซึ่งพวกญี่ปุ่นเองก็โหดอยู่ บทจะฆ่าชาวจีนก็ฆ่าเลย แต่โทนทีเล่นของหนังมันเลยลดทอนในแง่อารมณ์หรือส่วนดราม่าของหนังลงไป ดูแล้วนึกถึง ยิปมัน  หน่อยๆ เหมือนกันครับ เพราะมันคือการที่ชาวจีนสู้กับญี่ปุ่นเหมือนกัน และคนที่มาแสดงเป็นบอสฝ่ายญี่ปุ่นก็คือคนเดียวกันด้วย Hiroyuki Ikeuchi แต่ในขณะที่เรื่องนั้นตัวร้ายดูมีมิติ ส่วนเรื่องนี้ตัวร้ายออกแนวเรื่อยๆ จะโหดก็ไม่เชิง แต่จะฮาซะทีเดียวก็ไม่ใช่

ตามปกติหนังของเฮียเฉินจะเน้นขำเสมอ ผมเลยไม่แปลกใจที่โทนเรื่องมันจะมีการเล่นมุกหรือแอ็กชันแบบตลกเจ็บตัวเสิร์ฟผู้ชมอยู่เรื่อยๆ แต่ก็อย่างที่บอกครับว่ามันไม่สุด คือถ้าทำออกมาให้ฮาไปเลย มันน่าจะออกมาลื่นกว่านี้ แต่นี่ฮาก็มีแต่ไม่สุด และพยายามใส่ดราม่าลงไปอีก ซึ่งแน่นอนว่ามันก็ไม่ถึงเช่นกัน ยิ่งช่วงท้ายนี่ยิ่งเสียดายครับ เพราะมันก็จะลงสูตรหนังแนวนี้ คือต้องมีการสู้กันถึงขั้นแตกหัก และต้องมีการสละชีวิตเพื่อคนส่วนใหญ่ แต่กลายเป็นว่าโทนกึ่งเล่นกึ่งจริงของหนังทำให้ฉากที่ตัวละครต้องเสียสละมันดูไม่ได้อารมณ์เศร้าหรืออารมณ์อาลัยสักเท่าไร

คือสารภาพว่าตอนดูผมแอบสับสนน่ะครับ แม้มันจะมีฉากลุ้นว่าใครจะตายไหมหรืออะไรก็เถอะ แต่ด้วยความเล่นของหนังมันทำให้ผมไม่อินกับการเสียสละของพวกเขา ใจยังแอบคิดเลยว่า “คงไม่ตายจริงหรอกมั้ง” เหมือนหนังเฉินหลงส่วนใหญ่ที่ไม่ว่าจะตีกันระเบิดแค่ไหนก็มักจะไม่ถึงตาย แต่ถ้าถามว่าโอเคไหม ผมว่าก็ดูได้เรื่อยๆ ครับ แต่การที่หนังยาว 2 ชั่วโมงมันก็ทำให้เกิดความอืดในบางช่วง และถ้าใครหวังจะดูบู๊มันส์ๆ สไตล์เฮียเฉินล่ะก็ อาจต้องเผื่อใจไว้นิดหนึ่งครับ คือมีน่ะมันมี แต่ไม่ได้เยอะเท่าไร ส่วนหนึ่งก็เพราะตัวละครมีหลายคน เลยมีการแบ่งบทกระจายความเด่นจากเฮียเฉินไปเยอะเหมือนกัน (แต่ยังไงๆ เฮียเฉินก็เด่นสุดครับ)

ไปๆ มาๆ ผมดันชอบ Kung Fu Yoga มากกว่า เรื่องนั้นแม้จะโม้และบทโล่งโถง แต่อย่างน้อยมันก็มีฉากตีกันแบบเดิมๆ ที่ยังดูสนุก และหนังมันเน้นฮาอย่างเดียว ทิศทางมันเลยไปในทางเดียวกัน สุดท้ายแม้หนังจะไม่ได้ดีเด่ แต่มันก็ออกมากลมกล่อมดูแล้วได้อารมณ์ไปในทิศทางเดียว ในขณะที่เรื่องนี้ จริงๆ เนื้อหาดีครับ ดาราก็เล่นกันดี เพียงแต่หนังยังผสม “สายบู๊ฮา” กับ “สายบู๊กึ่งประวัติศาสตร์” ได้ไม่ลงตัวนัก ผลที่ได้เลยออกมากลางๆ แต่ถ้าเป็นแฟนเฮียเฉินก็ยังอยากให้ลองลิ้มครับ เพราะยังไงเฮียเฉินก็ยังเป็นดาราที่เล่นหนังได้ “น่ารัก” ในแบบของเขาเสมอ แต่พอดูปุ๊บก็พอเข้าใจว่าทำไม Kung Fu Yoga ทำเงินไปมากกว่า เรื่องนั้นทำไป $254 ล้านจากทั่วโลกครับ ในขณะที่เรื่องนี้ได้ไปประมาณ $102 ล้านเท่านั้น

 

รีวิว ใหญ่ ปล้น ฟัด-2

 

เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาดหนังเรื่องนี้

1. Railroad Tigers เป็นหนังที่รวมนักแสดงวัยรุ่นชายน่ารักกรุบกริบไว้เยอะที่สุด ไม่ว่าจะเป็น หวงจื่อเทา (อดีตสมาชิกวง EXO), ดาเรน หวัง และหวัง ข่าย

2. หนังเรื่องนี้เล่าถึง การแก้แค้นของกลุ่มคนจีนในช่วงปี 1940 สมัยที่ญี่ปุ่นเข้ารุกราน บรรดาชาวจีนถูกทหารญี่ปุ่นเกณฑ์มาสร้างทางรถไฟ ทำให้คนจีนอดอยากยากแค้น เป็นเหตุให้พวกเขารวมตัวกันเพื่อแก้เผ็ดชาวอาทิตย์อุทัย

3. จากข้อ 2 จึงเป็นที่มาของกลุ่มกองโจร “พยัคฆ์รถไฟ” ที่มีเป้าหมายเพื่อทำให้ญี่ปุ่นต้องอับอาย และขโมยของออกมาช่วยเหลือชาวจีนทั่วไป

4. Railroad Tigers เป็นหนังของเฉินหลงเรื่องแรกที่ฉายในระบบ 4DX ฟัดเต็มรูปแบบเต็มอารมณ์ต้อนรับปีใหม่ 5 มกราคม นี้ ทาง Mono Film ใจดีให้บัตรรอบสื่อมวลชนจำนวน 20 ที่นั่งมาแจกหลานๆ ที่เป็นแฟนเพจด้วย กติกาง่ายๆ เพียงแค่แชร์โพสนี้พร้อมมาแสดงความคิดเห็นสั้นๆ ว่า “ทำไมถึงอยากดู Railroad Tigers” ตามด้วยชื่อนามสกุลผู้รับบัตร

หลังชมภาพยนตร์ “Railroad Tigers” เสร็จ ผมมีความรู้สึกที่แตกออกเป็นหลายด้าน ทั้งรู้สึกสนุก รู้สึกมันโคตร และรู้สึกน่าเสียดายไปในเวลาเดียวกัน เพราะด้วยหน้าหนังที่ใครที่ได้ชมตัวอย่างหนังมาแล้วคงทราบว่า “Railroad Tigers” เป็นหนังแอ็คชั่นคอมเมดี้ ดูมันส์และฮาในสไตล์ “เฉิน หลง” แต่เนื่องจากหนังดันไปหยิบเรื่องจริงในช่วงสงครามโลกมาถ่ายทอด ผมจึงรู้สึกแอบเสียดายที่มันน่าจะถูกทำให้ดราม่าและเร้าอารมณ์มากกว่านี้ ทั้งๆที่เรื่องราวของหนังมีช่องว่างและโอกาสให้ใส่ประเด็นความดราม่าได้หลายจุดเลย แต่ผมก็เข้าใจนะว่า หนังเลือกจะมาทางแอ็คชั่นคอมเมดี้แล้วการที่จะใส่ความเป็นดราม่าเข้มข้นลงไปอีกคงจะเป็นเรื่องยาก เพราะผู้ชมนอกจะอินกับเรื่องราวและอารมณ์ของตัวละครลำบากแล้ว หนังอาจไปไม่สุดเลยซักทางเลยก็ได้ รีวิวหนังจีน