รีวิว Crouching Tiger Hidden Dragon
หนังจีนในสมัยก่อนนั้น ไม่ค่อยที่จะประสบความสำเร็จ ในฝั่ง ยุโรป หรืออมเริกา สักเท่าไร เป็นที่รู้กันอย่างหนึ่งว่าชาวอเมริกันไม่นิยมการดูหนังแบบมีบรรยายภาษาอังกฤษ อาจจะเพราะพวกเขาเติบโตมากับการดูหนังเสียงอังกฤษมาตั้งแต่เด็ก จึงไม่คุ้นเคยกับการดูหนังเสียงต่างประเทศมีคำบรรยายอังกฤษ ส่งผลให้สตูดิโอต่าง ๆ ในฮอลลีวูดจึงนิยมซื้อลิขสิทธิ์หนังจากต่างประเทศมาทำใหม่เป็น แบบฉบับ ฮอลลีวูดทั้งหมด รับชมได้ที่ เว็บดูหนังฟรี
แต่หัวข้อที่เรากำลังจะพูดถึงคือการบุกถิ่นอเมริกันของหนังสัญชาติไต้หวัน ที่สร้างปรากฎการณ์เป็นหนังต่างภาษาที่ทำรายได้สูงสุดในอเมริกาจนถึงปัจจุบัน ด้วยยอด 128 ล้านเหรียญ
เราสามารถบอกเล่าความสำเร็จของ Crouching Tiger, Hidden Dragon ว่าเกิดจากอเมริกันชนกำลังโหยหาฉากแอ็คชั่นศิลปะการต่อสู้ในแบบของ The Matrix และด้วยการตีตลาดอเมริกันด้วยชื่อของ ‘ยฺเหวียน เหอผิง’ ผู้ควบคุมฉากแอ็คชั่นในหนังเรื่อง The Matrix จึงเป็นใบเบิกทางชั้นดีที่ทำให้หนังประสบความสำเร็จในด้านรายได้
ความสำเร็จของ Crouching Tiger, Hidden Dragon ทั้งในแง่คุณภาพของบทหนัง, งานภาพ, ฉากศิลปะการต่อสู้ได้กลายเป็นอิทธิพลหลักสำหรับหนังแนว martial arts ยุคต่อมา ๆ เช่น Hero, Kill Bill และ House of Flying Dagger
หากถามว่า ภาพยนตร์จีนเรื่องใด สมควรได้รับรางวัลออสก้าร์มากที่สุด
“Crouching Tiger, Hidden Dragon ไม่เพียงสมควร แต่รับรางวัลออสก้าร์ สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมมาแล้ว และมันสมควรได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปีนั้นด้วยประการทั้งปวงขอรับ แม้ Parasite (2019) จะได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของออสก้าร์ แต่ก็เป็นไปตามกลไกของทั้งการตลาด
การจัดจำหน่ายออกฉาย ที่ทางเกาหลีใต้เองได้มีการวางแผนของภาพยนตร์เรื่องต่อคณะกรรมการออสก้าร์ แต่ถ้าพูดถึงกระแสของภาพยนตร์จริงๆ Crouching Tiger, Hidden Dragon เป็นหนังที่คนอเมริกาซื้อตั๋ว เข้ารับชมเองจนทำรายได้ในอเมริกาเกินร้อยล้านเหรียญ หนังที่เปี่ยมด้วยวัฒนธรรม วิธีคิด ปรัชญาของจีน สะท้อนผ่านการต่อสู้แบบกำลังภายใน ตัวละครอย่างหลี่มู่ไป๋ ซูเหลียน อวี้เจียวหลง และการคืนจอของ ราชินีหนังกำลังภายในของชอว์บราเดอร์ อย่าง เจิ้งเพ่ยเพ่ย ในบท จิ้งจอกหยก มันสร้างความรู้สึกตื่นเต้น และผูกพันกับเราคนดูที่ติดตามหนังจีนกำลังภายในมานานปี”
พยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลก รับชมได้แล้ว ภาพชัดระดับ HD ที่ ดูหนังออนไลน์
ชื่อ “Crouching Tiger Hidden Dragon” เป็นคำแปลของสำนวนจีน “臥虎藏龍” ตามตัวอักษรซึ่งอธิบายถึงสถานที่หรือสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยผู้คนที่ไร้สังกัด เปี่ยมไปด้วยอันตรายในความมืดมิดที่อาจมีพยัคฆ์ซุ่มซ่อน มังกรเร้นกาย(บู๊ลิ้ม) ซึ่งมาจากบทกวีของกวีจีนโบราณ หยูซิน (513-581)
ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายรอบปฐมทัศน์ที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2000 และได้รับการฉายในสหรัฐอเมริกาในวันที่ 8 ธันวาคม 2000 Crouching Tiger, Hidden Dragon ได้รับรางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์ทั่วโลกมากกว่า 40 รางวัล โดยได้รับรางวัล BAFTA สี่รางวัล และรางวัลลูกโลกทองคำสองรางวัล คือรางวัลผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและ รางวัลภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง 10 รางวัลออสการ์ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดสำหรับภาพยนตร์ที่ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษ และได้รับออสก้าร์ 4 รางวัล คือรางวัลภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม กำกับภาพยอดเยี่ยม กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม และเพลงประกอบยอดเยี่ยม
“Crouching Tiger, Hidden Dragon” หนังกำลังภายในที่ว่ากันว่าเปิดยุคทองยุคใหม่ของหนังแนวนี้เมื่อปี 2000 ผู้กำกับ อั้งลี ใช้ผสมผสานศิลปะภาพยนตร์แบบตะวันตก กับการเล่าเรื่องแบบหนังจีนยุคสมัยก่อน ประสมจนลงตัวและกลมกล่อม เป็นหนังกำลังภายในที่สร้างความเพลิดเพลินให้กับผู้ชมในวงกว้างเข้าใจได้ และยังเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางศิลปะ
ในตอนแรก หลี่เหลียนเจี๋ย ถูกทาบทามให้แสดงเป็น หลี่มู๋ไป๋ ในภาพยนตร์ พยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลก ที่กำกับโดย อั้งลี แต่กลับปฏิเสธโอกาสนั้นไป เนื่องจาก เจ็ท ลี ได้สัญญากับภรรยาไว้ว่าจะไม่ทำงานในขณะที่เธอกำลังตั้งครรภ์ บทจึงตกเป็นของ โจวเหวินฟะแทน
รีวิว Crouching Tiger Hidden Dragon เนื้อเรื่องและความน่าสนใจ
ครั้งนึงระหว่างการต่อสู้ เมิ่งซือเจาได้โดนศัตรูสังหารเพราะเข้าช่วยเหลือ หลี่มู่ไป๋ ภายหลังแม้หลี่มู่ไป๋ กับ หวี่ซูเหลียน จะผ่านอุปสรรคร่วมกันมากมาย แต่ทั้งคู่ก็มิได้แต่งงานเนื่องด้วยมิอยากให้ผิดต่อ เมิ่งซือเจา พี่น้องร่วมสาบาน เวลาผ่านเนิ่นานจน ทั้งคู่สู่วัยกลางคน หลี่มู่ไป๋นั่งบำเพ็ญตน จนถึงขอบเขตที่จะบรรลุมรรคผล แต่ภายในใจยังติดอยู่ที่ด่านความรัก หลี่มู่ไป๋รู้แล้วว่าถ้าให้ตนเลือกชีวิตเซียนวิเศษ ตนขอเป็นดั่งเฉกเช่นนกเป็ดน้ำจะดีเสียกว่า
(มิใคร่ปรารถนาชีวิตเซียน แต่ใฝ่ใช้ชีวิตดั่งนกเป็ดน้ำ) หลี่มู่ไป๋จึงละทิ้งกระบี่ฟ้าบันดาล และแยกตนกลับไปทำธุระส่วนตัว ก่อนจะกลับมาเพื่อใช้ชีวิตหลังวางกระบี่กับซูเหลียน
การวางกระบี่เพื่อหวังปลีกตัวจากยุทธภพไปใช้ชีวิตร่วมกับคนรักเป็นความปรารถนาของหลี่มู่ไป๋ แต่มิอาจสำเร็จเพราะ ทั้งความรัก ความแค้น จารีต ทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งที่ยากจะปล่อยวาง ซึ่งนัยยะตัวแทนแห่งจารีตนี่ถูกสะท้อนมาที่คู่ของหลอเสี่ยวหู่(เสือน้อย) และอวี้เจียวหลง(มังกรเพริศพริ้ง) หนุ่มสาวที่มีความแตกต่างทางฐานอันดร สะท้อนความต้องการอิสระเสรีทั้งชีวิตและความรัก
สำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ เน้นการถ่ายทำในปักกิ่งเป็นหลัก แต่ก็มีสถานที่ถ่ายทำใน มณฑลอันฮุย เหอเป่ย เจียงซูและ ซินเจียง ระยะแรกของการถ่ายทำในทะเลทรายโกบี ที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง สร้างปัญหาให้กับกองถ่ายจนอั้งลีแทบจะถอดใจ รวมถึงปัญหาการใช้ภาษาของนักแสดง โจวเหวินฟะยอดนักแสดงจากฮ่องกง
เขาพูดภาษาจีนกวางตุ้ง ส่วนมิเชล โหย่ว เธอเป็นชาวมาเลเซีย แต่มาทำงานที่ฮ่องกงมานาน ภาษาจีนกลางที่ใช้ในมาเลเซียสำเนียงแตกต่างจากจีนกลางแท้ๆ ส่วนจางเจิ้นดาราหนุ่มไต้หวัน เขาพูดจีนกลางได้แต่ยังติดสำเนียงไต้หวัน มีเพียงจางจื่ออี๋ ที่พูดจีนกลางสำเนียงปักกิ่งได้อย่างที่อั้งลีต้องการ แต่กับการสื่อสารกับนักแสดงคนอื่นก็เป็นปัญหา เพราะนักแสดงส่วนใหญ่สื่อสารด้วยภาษากวางตุ้งและอังกฤษ
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการยกย่องว่ายิ่งใหญ่และมีอิทธิพลมากที่สุดในเรื่องฉากต่อสู้
Crouching Tiger, Hidden Dragon ได้ถูกสร้างภาคต่อในปี 2016 โดยใช้ชื่อว่า Crouching Tiger, Hidden Dragon: Sword of Destiny ที่ดัดแปลงเนื้อหาจากนิยาย “ม้าเหล็กแจกันเงิน” ซึ่งเป็นเรื่องที่ 5 ในนิยายชุด “กระเรียน-เหล็ก” ซึ่งCrouching Tiger, Hidden Dragon ภาคแรกนั้น ดัดแปลงจาก “เสือซุ่มมังกรซ่อน” อันเป็นเรื่องที่ 4 ในนิยายชุดนี้ ที่เล่าถึงการช่วงเวลาหลังหลี่มู่ไป๋เสียชีวิต ภาคนี้ได้ หยวนวูปิงมากำกับ และได้มิเชล โหย่ว มารับบทเดิมในภาคแรก และเพิ่มตัวละคร “เมิ่งซือเจา” ที่รับบทโดย ดอนนี่ เยน เจิ้นจื่อตัน ตอนแรกได้มีการทาบทามจางจื่ออี๋มารับบทเดิม แต่เธอปฎิเสธ โดยเธอระบุว่า เธอจะกลับมาแสดงในภาคต่อเมื่อ อั้งลีมากำกับการแสดงเท่านั้น
เรื่องนี้บอกเลยว่ามีความเข้มข้น ผิดจากหนังกำลังภายในเรื่องก่อน ๆ ที่อาจจะมีเรื่องราวที่ค่อนข้างเดาทางได้ แต่ไม่ใช่กับเรื่องนี้อย่างแน่นอน กลายเป็นหนังที่เป็นแรงบันดาลใจของหนังยุคใหม่มากมาย ใครชื่นชอบหนังรางวัลบอกเลยว่าห้ามพลาดเรื่องนี้เด็ดขาด รีวิวหนังจีน
