รีวิว Dating in the kitchen

กระแสดีขนาดนี้ต้องยกเครดิตให้พระนางเคมีดีอย่าง จ้าวลู่ซือ และหลินอวี่เซิน ที่แม้โคจรมาพบกันครั้งแรกก็เรียกความฟินจิ้นจิกหมอนได้รัวๆ ตั้งแต่ตอนแรก ทั้งที่ทั้งคู่อายุห่างกันเกือบ 18 ปี (เรียกว่าเป็นพ่อ-ลูกกันได้เลย) จุดนี้ต้องแซ่ซ้องทีมแคสนักแสดงที่เลือกคนมาได้เหมาะกับคาแร็กเตอร์ตัวละคร อย่างมาก ดูหนัง

‘ฝากรักไว้ที่ท้ายครัว’ (Dating in the kitchen) เป็นเรื่องราวของ ‘กู้เซิ่งหนาน’ แม่ครัวสาวแสบวัยละอ่อนที่มีความโบ๊ะบ๊ะเป็นคุณสมบัติพาซวยทำให้ได้พบเจอกับ ‘ลู่จิ้น’ นักธุรกิจหนุ่มเรื่องเยอะผู้เย่อหยิ่ง ปากร้าย และเป็นคนกินยาก ที่มีแผนมาเทคโอเวอร์โรงแรมที่เชฟสาวคนนี้ทำงานอยู่ แต่เจอกันไม่ถึงนาทีก็เป็นเรื่องกันเสียทุกครั้ง แต่ลู่จิ้นก็มักจะถูกฝีมือการปรุงอาหารของกู้เซิ่งหนานดึงดูดอยู่เสมอ ถึงทั้งสองจะมีบุคลิกต่างกันแต่โชคชะตาก็นำพาให้เขาทั้งสองต้องมาใกล้ชิดกันอยู่บ่อยครั้งจนทั้งคู่รู้สึกดีๆ ต่อกันเกิดเป็นความรักวุ่นๆ ที่ท้ายครัว

ซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่อง Finally I Get You ของหลานป่ายเสื่อ (Lan Baise) เคยสร้างเป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2017 แต่ครั้งนี้นำมารีเมกเป็นเวอร์ชั่นซีรีส์ ซึ่งก็น่าจะเก็บรายละเอียดได้มากขึ้น ตัวเรื่องย่อแม้ไม่ได้เป็นพล็อตแปลกใหม่แต่ด้วยเนื้อหาเดินเรื่องค่อนข้างเร็ว EP แรกไม่กี่นาที พระ-นางก็กลายเป็นคู่กัดกันเลย ทั้งที่ฝ่ายพระเอกไม่ได้พูดสักคำ แต่ด้วยมาดเก๊กหน้าตายจนน่าหมั่นไส้

 

 

ช่วงนี้มีซีรีส์จีนคู่พระนางต่างวัยถอยออกมาให้เหล่าติ่งได้หวั่นไหวกันหลายเรื่อง แต่เรื่องที่น่าจะสร้างกระแสเทรนด์ลุงได้ฝุดๆ ต้องยกให้ ‘ฝากรักไว้ที่ท้ายครัว’ หรือ Dating in the Kitchen ที่มีให้ชมแบบเรียลไทม์ได้ที่แอป WeTV และ iQIYI แม้ออกฉายไม่นานในแอป WeTV ก็ขึ้นอันดับ 1 และ 2 สลับไปมาอย่างรวดเร็ว ทั้งที่เป็นซีรีส์แนวสากล เพราะปกติซีรีส์ที่ขึ้นอันดับเร็วสายฟ้าแลบส่วนใหญ่มักเป็นซีรีส์แนวย้อนยุค ชุดโบราณจัดเต็ม หาดูเลยอย่ารอช้าที่ เว็บดูหนัง

เพราะด้วยบทของกู้เซิ่งหนาน นางเอกของเรื่อง (รับบทโดย จ้าวลู่ซือ ที่เธอเพิ่งอายุ 22 ได้ไม่นาน) คือ แม่ครัวสาวแสบวัยละอ่อนที่มีฝีมือทำอาหารขั้นเทพ แต่เส้นทางเชฟกลับไม่ไปถึงไหนซักที เป็นได้แค่คนเตรียมวัตถุดิบหลังครัวในห้องอาหารโรงแรม ก็เพราะความซุ่มซ่ามโก๊ะกังของเธอไปกลบความเก่งกาจซะหมด ซึ่งบทรั่วๆ แบบนี้ช่างเป็นแนวถนัดของจ้าวลู่ซือซะเหลือเกิน หากใครพอเคยผ่านตาผลงานของเธอมาแล้ว อย่างข้านี่แหละองค์หญิงสาม (The Romance of Tiger and Rose), ฮ่องเต้ที่รัก (Oh! My Emperor), ลิขิตรักสามพันปี (Love of Thousand Years) จะรู้ดีว่าบทประเภท ‘บ่นคนเดียว’ และ ‘รอยยิ้มโลกสวย’ ฆ่าผู้ชมให้ตายสงบศพสีชมพูมานักต่อนักแล้ว

เรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่รีเมคมาจากภาพยนตร์เรื่อง This Is Not What I Expected (2017) ซึ่งได้ นางเอกหน้าใส จ้าวลู่ซือ ประกบคู่กับพระเอกหนุ่มใหญ่สายอบอุ่น หลินอวี่เซิน ซึ่งคาแร็กเตอร์ของเรื่องนี้ก็เป็นทางถนัดของจ้าวลู่ซือ เรียกว่า เข้ามือเป็นธรรมชาติมาก กับบทเชฟสาวน่ารักสดใส ก๋ากั๋นนิดๆ แสบหน่อยๆ แต่ฝีมือทำอาหารนั้นไม่ธรรมดา จนเป็นที่ติดอกติดใจของบอสหนุ่มใหญ่ ที่ปกติจะเป็นคนเคร่งขรึม เรื่องมาก เรื่องเยอะ แต่พอได้มาเจอกับเชฟสาวแสนสวย ก็ถึงกับเสียอาการเลยทีเดียว รีวิวหนังจีนออนไลน์

 

รีวิว Dating in the kitchen-1

 

รีวิว Dating in the kitchen เนื้อเรื่องน่าสนใจขนาดไหน

ซีรี่ย์เรื่องนี้เล่าเรื่องราวของ แม่สาว กู้เชิ่งหนาน  (จ้าวลู่ซือ) เชฟสาววัย 29 ปี เป็นผู้ช่วยเชฟของโรงแรมจื่อจิง  กับบอสหนุ่มสุดเฮี้ยบ ลู่จิ้น (หลินอวี่เซิน) วัน ๆ นางก็ยืนปอกหัวหอม หั่นผัก ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยตามที่เชฟคนอื่น ๆ สั่ง แต่เธอมีฝีมือทำอาหารพอตัวชนิดที่ว่าเชฟด้วยกันยังติดใจในฝีมือในการทำ “ข้าวผัดตบหน้า” ของเธอ แต่อยู่ ๆ เธอก็ก่อเรื่องขึ้นมาซะได้จนทำให้ตัวเอง “ตกงาน” เหตุการณ์วันนั้นทำให้เธอได้พบกับ ลู่จิ้น (หลินอวี่เซิน)  

โดยบังเอิญและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะเป็นผู้นำความโชคร้ายและโชคดีมาให้เธอ นับครั้งไม่ถ้วน ลู่จิ้น เป็นผู้บริหารระดับ CEO เล่นมุกนี้บ่อยไปน้า ที่เดินทางมาประเมินเพื่อซื้อกิจการของโรงแรมจื่อจิง หนุ่มใหญ่จอมเฮี๊ยบที่เรื่องมากซะเหลือเกินกับรสชาติอาหาร นั่นก็ไม่ถูกปากนี่ก็ไม่โอเค แต่กลับมาติดใจรสชาติของข้าวผัดตบหน้าที่ผู้จัดการโรงแรมนำมาขัดตาทัพเป็นเมนูสุดท้าย ติดใจชนิดที่ว่าอยากรู้จักเชฟคนนี้ แต่เสียใจด้วยจ้ะ เธอโดนไล่ออกไปแล้ว

ส่วนบทพระเอกเป็นหนุ่มนักธุรกิจเรื่องมาก มาดเยอะ ปากร้าย นาม ‘ลู่จิ้น’ ก็ได้ หลินอวี่เซิน นักแสดงวัย 39 ปีที่โลดแล่นในวงการฝากผลงานมาแล้วอย่าง คนขุดสุสาน ตอนอุโมงค์ปริศนาแห่งเขามังกร (Candle in the Tomb: The Lost Caverns) และอื่นๆ อีกมากมาย

แต่ที่เข้าตาติ่งซีรีส์จีนชาวไทย น่าจะเป็นบททูตซ้ายเอี้ยเซียวแห่งเมงก่าในดาบมังกร 2019 (Heavenly Sword and Dragon Slaying Sabre 2019) ที่เล่นได้เท่ปังเกินบท จนอัพเลเวลสร้างฐาน FC เพิ่มได้เพียบ ก็เป็นเสน่ห์ของนักแสดงหลินอวี่เซิน โดยกลางๆ มีปมและอุปสรรคเล็กให้ผู้ชมได้ลุ้นตามกันไปเบาๆ

 

 

แต่บุพเพอาละวาดก็ทำให้สองคนโคจรมาพบกันอีกแบบไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เมื่อเพื่อนสาวคนสนิทของกู้เซิ่งหนานบอกกับเธอว่า ถูกผู้ชายที่คบหากันอยู่หลอกลวง สองคนนัดแนะกันจะไปแก้แค้น แต่กู้เซิ่งหนานนี่แหละที่ไปแก้แค้นผิดที่ เพราะดันไปทำเอากับรถสปอร์ตคันงามของลู่จิ้นซะได้ ก็เพิ่มความซวยให้ตัวเองเข้าไปอีกเพราะทั้งตกงานและติดหนี้ค่าเสียหายของลู่จิ้น แต่ต่อมาไม่นานนางก็ได้กลับเข้าทำงานอีกครั้งในฐานะเชฟของห้อง 1123 ก็ห้องที่ลู่จิ้นพักอยู่นั่นแหละ และมารู้เพิ่มเติมอีกว่า เขาคือบอสใหญ่ที่มาซื้อโรงแรมแห่งนี้ ก็จะเป็นเรื่องวุ่น ๆ ฮามาก ๆ ของเชฟสาวกระทะเหล็ก กับบอสเจ้าของโรงแรมที่แสนจะเรื่องมาก แต่กลับมาติดใจรสชาติอาหารของเธอคนเดียวเท่านั้น

 

รีวิว Dating in the kitchen-2

 

ความคิดเห็นส่วนตัวหลังดูจบสุดฟิน

ถ้าใครเคยดูซีรีส์ ‘ขุนให้อ้วนแล้วชวนมารัก’ (Shan Shan Comes to Eat) ก็ไม่ควรพลาดเรื่องนี้ เพราะเป็นซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้อารมณ์เดียวกัน แนวพระเอกเย็นชาขี้เก็ก กับนางเอกน่ารักสายโก๊ะก่อนที่ความสัมพันธ์ตัวละครจะพัฒนาไปเป็นแบบพระเอกปกป้องนางเอกออกนอกหน้า งานนี้มีฉากฟินๆเสิร์ฟออกมารัวๆ แบบไม่ทันตั้งตัว จนต้องบอกเลยว่าพระ-นางต่างวัยคู่นี้เอาอยู่จริงเป็นการดึงเอกลักษณ์การแสดงที่เสมือนเป็นโลโก้ของทั้งคู่มาแมทซ์ได้อย่างลงตัว

ฮาตั้งแต่ฉากแรกเลยจ้ะเรื่องนี้ ซีรีส์คอมเมดี้นี่ทางถนัดของจ้าวลู่ซือเธอเลย เรียกว่าเข้ามือปั๊วะป๊ะเป็นธรรมชาติ กับคาแรกเตอร์ของเรื่องที่เป็นเชฟสาวน่ารักสดใส ก๋ากั่นนิด ๆ แสบหน่อย ๆ แต่มีฝีมือทำอาหารที่สุดยอดจนเป็นที่ติดอกติดใจของ ลู่จิ้น พระเอกของเรื่อง ที่เป็นบอสสายลุง เคร่งขรึม เรื่องมากแต่อบอุ่น หล่อไม่มากแต่เสน่ห์ล้นเหลือ

จนกลายเป็นเคมีสาวน้อยกับลุงยักษ์ของฝั่งจีน เสียงกรี๊ดของเหล่าแฟนคลับทั้งเก่าและใหม่ เทียบชั้นได้กับกงยูของฝั่งเกาหลีก็ว่าได้ หลิวอวี่เซิน ในบทนี้ ทำให้ท่านทูตซ้ายเม้งก่าเปลี่ยนไปเลย

เรื่องนี้พระเอกเขาก็จะมีความเยอะสิ่งกับอาหารเป็นพิเศษ โดยเฉพาะหลังจากที่ได้ลิ้มลองรสมือของนางเอกเข้าไป จากอาหารที่เคยทานว่าอร่อยก็กลับไม่ถูกปากและมีข้อติเอาซะอย่างนั้น ซึ่งเจ้าตัวลงความเห็นเอาเองว่า “หรือเลเวลการลิ้มรสจะยกระดับขึ้นแล้ว” ว่าไปนั่น ดูซีรีส์เกี่ยวกับอาหารมาก็หลายเรื่อง

 

 

ซีรีส์เรื่องนี้ขายความเป็นโรแมนติดคอมเมดี้ชัดเจนค่ะ ซึ่งก็ถือว่าทำได้สำเร็จคะแนนเต็มสิบไม่หักในจุดนี้กันเลยทีเดียว แต่บอกเลยว่าเรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่มุมกล้องในฉากทำอาหารเรียกน้ำย่อยได้ดีที่สุด แสง เงา มุมกล้อง การวางคอมโพสต์ การลำดับขั้นตอนตั้งแต่เริ่มทำจนแล้วเสร็จ ประหนึ่งว่าเรากำลังดูรายการเชฟกระทะเหล็กแบบเจาะลึก ซ่อนกล้อง สร้างความลำบากให้กับการดูตอนกลางคืนเอามาก ๆ เพราะอดใจแทบไม่ไหว อยากจะกินไปทุกสิ่งอย่าง

ส่วนเรื่อง มุกตลกที่ใส่เข้ามาตลอดการดำเนินเรื่องมันเป็นมุกที่ลื่นไหน เป็นธรรมชาติ ไม่มีแป้กไม่มีค้าง ไหลไปได้เรื่อย ๆ เรียกเสียงฮาได้ตลอดแบบไม่รู้ตัว เรียกว่าเป็นธรรมชาติที่ออกมาจากตัวละครแต่ละตัวตามคาแรกเตอร์ในเรื่องกันแบบสบาย ๆ สลับกันไปกับอารมณ์โรแมนติกแบบฮา ๆ ของคู่พระนาง ที่มีพระเอกมาดขรึมหลงรักเชฟสาวดวงซวย จนหลุดขรึมซะเสียอาการ ให้ได้ยิ้ม ได้ขำ ได้จิกหมอนกันแบบอารมณ์ดี หากชอบรีวิวเรื่องนี้ หรืออยากอ่านรีวิวเรื่องไหนอีก ติดตามที่ รีวิวหนังจีน