รีวิว Deity Of Love ลิขิตรักนางพญางูเขียว
แนะนำหนังจีน ที่มีชื่อว่า Deity Of Love หรือ ลิขิตรักนางพญางูเขียว แล้วบอกเล่าเรื่องราวของกงซุกวังที่เป็นมนุษย์ธรรมดา แม้ว่าเขาจะเป็นลูกชายของครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ แต่เขาพยายามใช้สมองและความรู้เพื่อค้นหาอนาคตที่ดีกว่าสำหรับตัวเอง ก่อนจะถูกตราหน้าว่าเป็นเหตุร้ายที่ทำให้ต้องสูญเสียสมาชิกในครอบครัวคนสำคัญไป สามารถรับชมได้ที่ ดูซีรี่ย์จีน
รีวิว Deity Of Love ลิขิตรักนางพญางูเขียว เรื่องราวดำเนินไปอย่างรวดเร็วราวกับจรวด
เรื่องราวดำเนินไปอย่างรวดเร็วราวกับจรวด อวดทุกรสชาติตั้งแต่เริ่มต้น เหตุผลหนึ่งที่ Jinxed at First เป็นซีรีส์ที่น่าติดตามที่เล่าเรื่องอย่างรวดเร็ว เผยที่มาของตัวละครอย่างครบถ้วนตั้งแต่เริ่มต้น การกระจายบทบาทให้ทุกคนมีความสำคัญไม่น้อย สามารถอ่านรีวิวของเราเพิ่มเติมได้ที่ เว็บรีวิวหนัง
แล้วพร้อมทั้งถ่ายทอดเรื่องราวลึกลับของเทพธิดาพยากรณ์ในรูปแบบแฟนตาซี คอมพิวเตอร์กราฟิกที่ดูน่าลงทุนช่วยให้เราสัมผัสได้ถึงพลังพิเศษผ่านแสงไฟอันตระการตา เท่านั้นยังไม่พอ เพราะซีรีส์นี้ดัดแปลงมาจากเว็บตูนหลายฉากให้ความรู้สึกเหมือนเทพนิยายในวัยเด็ก แฟนแฟนตาซีได้เห็นมันและคงจะชอบมันไม่น้อย
Seohyun รับบทเป็น Lee Seul Bi ในละครเรื่อง Jinxed at First เมื่อส่วนแฟนตาซีทำได้ดี ซีรีส์จึงกระตุ้นความสนใจด้วยละครครอบครัวในมิติต่างๆ ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ที่ไม่ต้องการให้ลูกเผชิญชะตากรรมเดียวกับตัวเธอเอง ลูกที่เสียแม่ไปจนชีวิตกลับหัวกลับหาง
หรือบิดาที่คาดหวังให้บุตรของตนเดินตามทางที่ครอบครัวกำหนดไว้สำหรับเขา นี่ไม่ใช่ละครที่จริงจังเลย เพราะตลอดทั้งเรื่องยังแทรกบรรยากาศตลกผ่านตัวละครพระนางและชาวบ้านในตลาดที่เล่นใหญ่และเล่นเหมือนเห็นแต่หน้าหัวเราะ ส่วนที่ขาดไม่ได้คือความรักระหว่างราชินีที่เสิร์ฟจนอิ่มในเวลาไม่นาน นอกจากนี้ยังเป็นความรักระหว่างเทพธิดากับมนุษย์ที่น่าตื่นเต้นและให้กำลังใจ
นักแสดงชุดใหม่ งานดี. บดขยี้ความสัมพันธ์กับรูปสามเหลี่ยมอีกครั้ง Jinxed at First การได้นักแสดงที่ดูดีทำให้ความสนุกสนุกยิ่งขึ้นไปอีก ชายหนุ่มรูปหล่อสูงนาอินอู รับบทเป็นนางเอกเรื่องที่สองเรื่อง River Where the Moon Rises (2021) ถอดชุดนักรบออกแล้วกลายเป็นชายบ้านๆ หลายคนคงคุ้นเคยกับบทบาทชายที่ดูดุร้าย จากซีรีส์ย้อนยุค และทุกท่านสามารถรับชม การ์ตูนอนิเมะ
แต่เรื่องนี้สามารถถ่ายทอดความไร้เดียงสาผ่านดวงตาที่น่ารักและหยิกได้ ที่สำคัญเคมีสาธารณะของเขาเข้ากันได้ดีกับซอฮยอน ที่ส่งความหวานจนหน้าจอล้น แม้ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นอย่างยากลำบาก ตัวละครของซอฮยอนในเรื่องนี้ก็ไร้เดียงสาเพราะเขาไม่เคยเห็นโลกภายนอก จัดงานลิงเจ้าเล่ห์ให้หลายคนหลงรัก
รีวิว Deity Of Love ลิขิตรักนางพญางูเขียว คอนเซปต์รักสามเส้าในสไตล์
ซอฮยอน x นาอินอูใน ‘Jinxed at First’ นอกจากนี้ คอนเซปต์รักสามเส้าในสไตล์ซีรีย์เกาหลียังคงเหมือนเดิม โดยส่ง Ki Do Hoon นักแสดงหนุ่มอีกคนที่หลายคนคงรู้จักกันดี Brian Shaun ในซีรีส์ Love Alarm 2 (2564) ครั้งนี้เขาทำหน้าที่เป็นผู้หมวดคนแรกที่ฉลาดและไม่ยอมแพ้ต่อความโลภของครอบครัว ความอบอุ่นของตัวละครตัวนี้ นอกจากทำให้อีซึลบีสั่นแล้ว ยังสามารถเขย่าได้ เชื่อว่าทีมหลวงต้องช่วยหนุ่มคนนี้ไม่น้อยเหมือนกัน ติดตามการรีวิวของเราได้ที่ รีวิวหนังจีน ซีรีย์จีน ข่าวสารหนังจีน
เรียกว่า Jinxed at First เป็นอีกเรื่องที่แฟนซีรีส์แฟนตาซีไม่ควรพลาด นอกจากจะตื่นตากับ CG สุดอลังการแล้ว ยังซ่อนออร่าของละคร ตลก และรักหวานๆ ที่ชวนให้เพลิดเพลินอีกด้วย เชิญรับชมสดพร้อมกันทุกสัปดาห์ อัพเดทตอนใหม่ ทุกคืนวันพุธและพฤหัสบดี เวลาประมาณ 21.30 น. สามารถรับชมเวอร์ชันซับไทยที่มีลิขสิทธิ์ได้ที่ iQIYI ผ่านเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ที่รองรับ หรือผ่านกล่อง TrueID TV ได้แล้ววันนี้
ในจำนวนตอน : 60+1 (60ตอนจบแหละ แต่มีจบสองแบบ ต่างกันนิดนึง) ความยาวต่อตอนเฉพาะเนื้อหา : ~45นาที เนื้อเรื่องย่อ : จื่อเซวียน(พระเอก) เซียนหนุ่มได้ช่วยเหลืองูขาวตัวหนึ่งเอาไว้ตั้งชื่อให้ว่าเสี่ยวไป๋ วันหนึ่งเสี่ยวไป๋บำเพ็ญเพียรสำเร็จกลายร่างเป็นมนุษย์ จื่อเซวียนยังคอยดูแลอบรมสั่งสอนนางด้วยความเอ็นดู
แต่ต่อมาไม่นานมีมังกรร้ายออกมาอาละวาดก่อกวนสวรรค์ จื่อเซวียนและเสี่ยวไป๋จึงต้องร่วมมือกันต่อสู้ และนั่นเป็นสาเหตุทำให้วิญญาณของจื่อเซวียนดับสูญ จนกระทั่ง 1,000 ปีต่อมา โชคชะตาจึงพาให้ทั้งคู่ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง(ถึงตรงนี้ก็อปมา) อย่าลืมรับชมได้ที่ ดูหนังฟรี
หลังจากนั้นนางเอกก็ไปตามเจอและคอยช่วยเหลือพระเอกที่เป็นมนุษย์อยู่ห่างๆ แล้วก็ได้ไปเจอกับเสี่ยวชิง ปีศาจงูเขียว ซึ่งจะมาเป็นคู่รองของเรานี่แหละ พระนางก็ช่วยกันฟันฝ่าอุปสรรค ทั้งกับตัวอิจฉาเหลิ่งหนิง ปีศาจเทาเที่ย ราชาปีศาจที่ต้องการก่อสงคราม ผนึกมังกรทั้งห้าที่โดนเทาเที่ยและคณะมาคลายออก ทำสงครามกับราชาปีศาจ ร่วมฝ่าฟันโทษสวรรค์ ฝืนลิขิตชะตาของพระเอกที่ถูกกำหนดให้อยู่อย่างโดดเดี่ยว
รีวิว Deity Of Love ลิขิตรักนางพญางูเขียว เพื่อนขิมเทสซีรี่ส์เดียวกัน
ความรู้สึกเมื่อได้ดู พพล.ไม่ชอบ ดูแล้วเหนื่อย เหนื่อยมากๆ แล้วเพื่อนขิมเทสซีรี่ส์เดียวกันคงจะไม่ชอบเหมือนนี่แน่ๆ แบบเริ่มเหนื่อยตั้งแต่อีพี20 พออีพี30ตัดพ้อว่าเมื่อไหร่จะจบ พอพบว่าเหลืออีกตั้งครึ่งเรื่องก็อยากจะถอดใจแต่ทำไม่ได้เพราะถือคติดูแล้ว ต้องดูให้จบ ดูไปก็นั่งนับไปว่าเหลืออีกกี่ตอน เหนื่อย คะแนนที่ตั้งไว้ในใจตั้งแต่กลางเรื่องค่อยๆลดลงจนเหลือเท่าที่เห็น ย้ำอีกครั้งว่าพพล.เหนื่อย เข้าดูหนังแบบฟรี ๆ ที่ ดูหนังออนไลน์ HD
นี่ว่าเคมีพระนางคือไม่ได้เลย ดูแล้วไม่เชื่อว่าสองคนนี้เค้ารักกัน ดูยังไงก็ไม่อิน ไม่อินตั้งแต่ต้นยันจบ คือการแสดงออกในเรื่องคือต่อให้เรียกท่านพี่ เรียกน้องรัก(ซับแปลมางี้) แต่ภาษากาย สีหน้า แววตามันไม่ไปด้วยกันเลยตลอดเรื่อง ซึ่งถ้าถามว่าแล้วแบบไหนถึงเรียกว่าดูแล้วเชื่อ ต้องไปดูตำนานหมิงหลันฉากที่นางเอกบอกว่าท้องแล้วพระเอกดีใจจนอุ้มนางเอกแล้วตะโกนให้คนอื่นรู้
อันนั้นคือดูแล้วอินเลยว่าเค้ารักกัน ถ้าขิมจะดูเรื่องนี้จริงๆ เผลอๆจะอินกับความรักของพระรองที่ออกมาแปปๆตอนท้ายเรื่องมากกว่าอีก(ชื่อจ่านฮ่วนมั้ง) คือพระรองเล่นละเอียดมาก ยิ่งตอนที่ขอความรักจากนางเอก เล่นเศร้าจนหูตาแดงไปหมด เป็นความมาแปปเดียวแต่นี่อินกว่าพระนางทั้งเรื่อง(เผลอๆนี่ว่าหล่อกว่าพระเอกด้วย ความลักยิ้มสองข้าง เพนแพ้ ง้อยย)
เนื้อเรื่องยืดมากกกกกกก สำหรับนี่45ตอนก็จบได้ละ ส่วนตัวคิดว่าโครงเรื่องสนุกนะ แต่บทคือขั้นกว่าของความน่ารำคาญ ความพูดวนซ้ำไปซ้ำมา ตอนๆนึงพูดเรื่องเดิมไปสามรอบ รอบนึงก็ไม่ใช่แปปๆ นี่แบบเอ้อ จะพูดอะไรกันหลายรอบ เสียเวลา
แล้วที่พูดวนสามรอบในอีพีนี้ก็จะไปพูดซ้ำในอีกสี่อีพีต่อมา แล้วฉากรำลึกอดีตก็รำลึกอยู่นั่น เรื่องอื่นคือเค้ารำลึกแค่ตอนพีคๆ แต่นี่มาทุกหกตอนงี้ป้ะ เอะอะก็นั่งนึก อีกอย่างที่ทำให้เนื้อเรื่องไม่เดินคือฉากต่อสู้ มีแทบทุกตอนซึ่งอะไรที่มันมากไป เราดูแล้วมันก็เบื่อ เก็ทมะ คือกดกรอ 8 ครั้ง(ครั้งละ 5 วิ)แล้วฟังต่อก็เข้าใจว่าพูดเรื่องอะไรกันอยู่ แล้วเรื่องที่พูดก็ไม่สำคัญด้วย เรื่องนี้นี่กดกรอบ่อยมาก กรอจนเหนื่อยอิเวง
เอาจริงๆดูแล้วจะรำคาญในชะตาของทั้งคู่ คือถ้าเป็นเรื่องอื่นที่ขายดราม่าทั้งเรื่องแล้วหน่วงเหมียนหมานี่ก็พอเข้าใจ แต่สำหรับเรื่องนี้ขิมจะพบแต่ความรำคาญ แบบเดี๋ยวก็จะตาย เดี๋ยวก็เกือบตาย แต่ไม่ไล่ความหนักเบาของปมปัญหาบิ้วอารมณ์คนดู ไม่รู้ว่าทีมเขียนบทต้องการแสดงให้เห็นความเสียสละของทั้งคู่หรือยังไง
สำหรับคนดูที่มีเหตุการณ์เกือบตายทุก7-8อีพี
แต่สำหรับคนดูที่มีเหตุการณ์เกือบตายทุก7-8อีพีคือรำคาญ และรู้สึกว่าการเสียสละซ้ำๆมันทำให้ไม่ตรึงใจ ถ้าเทียบกับป่าท้อที่เยี่ยหัวเสียแขนคือโคตรอิน แต่เรื่องนี้คือแบบ อ่อ อืม เกือบตายกันอีกแล้วหรอ ช่างเหอะเดี๋ยวก็รอดเหมือนเดิมแบบที่เคยผ่านๆมาแหละ แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เดี๋ยวเสียเลือด เดี๋ยวหมดพลังบลาๆ ซึ่งสเกลพลังเรื่องนี้คือขาดๆเกินๆ เดี๋ยวเก่งเดี๋ยวไม่เก่ง ดูแล้วแบบตกลงจะสู้ได้หรือไม่ได้ หรือยังไง งอง ได้ที่ ดูหนังใหม่ ฟรี
ต่อจากประเด็นข้างบนคือเรื่องนี้ทำให้การตายของตลค.ดูไม่มีค่า เพราะตายแล้วเดี๋ยวก็ได้ฟื้น ซึ่งมันจะมีการตายในเรื่องที่จะเป็นปมใหญ่ในคสพ.ของพระนาง ซึ่งแทนที่จะเป็นการพยายามปรับความเข้าใจกัน กลับกลายเป็นแค้นกันแล้วท้ายเรื่องคนก็ฟื้นขึ้นมา
ความแค้นหายไป พระนางรักกัน มันเลยเป็นอีกจุดที่ไม่ตรึงใจ เหมือนเรื่องนี้ต้องการขมวดเกือบทุกปมให้จบสวยโดยไม่ทำให้คนดูรู้สึกซึ้ง หรือมีอารมณ์ร่วมไปกับตลค. ตายแล้วไงฟื้นได้อยู่ดี รวมไปถึงปมพี่สาวของพระเอกตอนท้ายเรื่องที่จบดีแบบงงๆ โดยที่นี่คิดว่าไม่ต้องใส่ก็ได้เพราะไม่สำคัญกับเส้นเรื่องหลักเลย
และสืบเนื่องมาจากสองประเด็นบน เรื่องนี้คืออันดับสองของวงการจับแพะชนแกะรองจากฝูเหยา คือพอมีเหตุการณ์ที่นักหน่วงจนพระนางสักคนควรตาย(ซึ่งถ้าตายจริงก็ตายตั้งแต่ต้นๆเรื่องไปแล้ว) ก็มักจะมีข้อยกเว้นให้รอดเสมอโดยที่ไม่สมเหตุสมผล
เช่นค่ายกลย้อนเวลาสร้างด้วยของวิเศษจากเขาคุนหลุนกันไม่ให้คนเข้าไป แต่อยู่ๆก็ใช้ไฟในร่างของปีศาจ49ตัวทำให้ค่ายกลมีช่องว่างได้ขึ้นมาทันที เดี๋ยวถ่ายพลัง เดี๋ยวใช้รากเซียน เดี๋ยวมุกวิญญาณ ซึ่งเล่นประเด็นมุกวิญญาณของปีศาจบ่อยมากจนเหมือนยาครอบจักรวาล ไม่รู้โยนปมไปไหน โยนมามุกวิญญาณของนางเอก แล้วเป็นแบบนี้ทั้งเรื่องจนเดาได้
ตัวละครไม่ค่อยมีมิติเท่าไหร่ ดูแบนๆ บุคลิกลักษณะนิสัยดูตื้นๆ อธิบายไม่ถูก แต่นี่ไม่ชอบ ถ้าขิมลองแล้วจะเข้าใจ พระนางทำอะไรไม่ค่อยจะปรึกษากันด้วย เอะอะจะเสียสละยอมตายให้อีกฝ่ายรอด โดยที่ไม่คิดถึงความรู้สึกอีกฝั่งเลยว่าถ้าตัวเองตายเขาจะอยู่ต่อยังไง แทนที่จะช่วยกันแบ่งเบากลับทำนู่นนี่เองไม่ให้อีกฝ่ายรู้ เห็นอีกทีก็คือเกือบตาย(แต่ก็รอดเหมือนเดิมนะ งง) แอบรำคาญนิสัยนางเอกและเพื่อนนางเอกด้วย ทำอะไรคิดตื้นๆ ดื้นจนน่ารำคาญ
ความรู้สึกหลังดูของเรื่องนี้
แต่นักแสดงนางแสดงดีนะว่าไม่ได้ พระเอก เพื่อนพระเอกคือคิวบู๊โหนสลิง ยิงพลังปราณโบ๊ะบ๊ะๆ นางเอกคือเล่นบทเศร้าโอเลย(แต่เพราะมีบ่อยเกินเลยไม่อิน) หยางจื่อเล่นน้ำหูน้ำตาไหลแบบไม่ห่วงสวยเลย ยิ่งหลิงฉู่(เพื่อนพระเอก คู่รอง)เล่นดีมากยิ่งตอนเศร้านะ ฉันเศร้ากว่าพระนางทั้งเรื่องอีก ซีจงซีจีก็ทำดี ไม่โป๊ะ ไม่ตลก แต่ไม่ชอบซีจีร่างงูนางเอก ตลกมาก การ์ตูนมาก งูอะไรขนตาอย่างเด้ง
เซ็ตติ้งสวรรค์บางส่วนนี่ก็ไม่โอ ยิ่งเขาคุนหลุนที่เอาดอกไม้ปลอมมาปักเป็นช่อๆ แบบเอาออกเถอะแล้วใส่เอฟเฟ็คเข้าไปแทนก็ได้ ฉันไม่ว่า ยิ่งฉากปีศาจกะสวรรค์รบกันคือตลกมาก คนหรอมหรอยจนไม่น่าเรียกว่าสงครามแบบที่ปูมาทั้งเรื่องว่าน่ากลัวมากกก แต่ฉากอื่นๆก็ทำได้ดีหมดนะ
งานคอสตูมเรื่องนี้เฉยๆ ไม่โดดเด่น ตัวที่ควรสวยอย่างปีศาจผีเสื้อก็ไม่สวย แต่ชุดของจ่านฮ่วนทำได้ดีนะ ดูร้าย ดูหล่อ ไอเลิ้บ ชุดของเง็กเซียนกับเหลิ่งหนิง(ตัวอิจฉา ศิษย์น้องพระเอกร่างมนุษย์)ตอนอีโวก็สวย นางดูลึกลับ ดูร้ายดีนี่ชอบ อีกอย่างเลยคือวิกหัวโล้นของหลิงฉู่ที่บวชเป็นพระท้ายเรื่อง เหมือนจริงมาก ไม่เห็นรอยวิกเลย แล้วมีความมันความเลื่อมเหมือนโกนจริง ฉันชอบมาก
อย่าคาดหวังฉากน่ารักกุ๊กกิ๊กเลิฟซีนมากเกิน ที่เห็นมากสุดก็นางเอกกอดแขน แค่นั้น จูบมุมกล้องอีก 1 ฉากเข้าหอที่ตัดเข้าเชิงเทียนอีก 1 หมดแล้วมั้งทั้งเรื่อง เพลงประกอบนี่ก็ไม่ชอบทั้งเพลงเปิดและปิดเลย bgmก็ไปกันคนละทาง เดี๋ยวก็จีนโบราณ เดี๋ยวก็ประสานเสียงแบบที่ขิมจะเจอในหนังฮอลลิวูด ซึ่งไม่ติดหูเลย ดูจบแล้วลืมหมด จบดีแบบห้วนๆ แบบงงๆให้เราไปคิดเองต่อ ซึ่งเหมือนกันทั้งสองเวอร์ชั่นแต่อันหลังจะมีต่อมาหน่อยนิดนึง
สรุปคือเรื่องนี้นางไม่ได้แย่นะถ้าคนดูไม่คิดอะไร ฉากเซ็ตติ้งหลายๆฉากทำได้ดีแหละ โดยเฉพาะบนโลกมนุษย์ที่ดูสมจริงมาก ดูเอาคิวบู๊ ดูเอาความแฟนตาซี ดูซีจี พังอย่างเดียวเลยคือบทที่เหมือนพายเรือวนในอ่าง ซึ่งขิมจะตามดูก็ได้ ขำ ๆ ถ้าหากทุกท่านชื่นชอบการรีวิวของเรา สามารถติดตามการรีวิวของเรา แบบไม่ขาดช่วงได้ที่ รีวิวหนังจีน
