รีวิว The Untamed The Living Dead

รีวิว The Untamed The Living Dead

แนะนำหนังจีน ที่ออกแนวแฟนตาซี เทพนิยาย สงคราม ซึ่งเป็นการกลับมาพบกันอีกครั้งแล้วนะคะ สำหรับการรีวิวซีรีส์ที่สร้างจากเว็บตูนชื่อดังยอดฮิตอย่างเรื่อง ‘ปรมาจารย์ลัทธิมาร’ ที่ถึงแม้ว่าซีรีส์จะจบไปนานเป็นปีแล้ว แต่ก็ยังคงมีหลาย ๆ คนที่ยังติดตามรับชมดูอยู่เรื่อย ๆ สามารถรับชมได้ที่ ดูหนังออนไลน์

บางคนอาจจะวนดูแล้วดูอีกไม่สามารถออกจากเรื่องนี้ไปได้จริง ๆ ซึ่งนั่นก็รวมถึงตัวดิฉันเองด้วย ที่วนดูหลายรอบจนแทบจะจำบทพูดของแต่ละตัวละครได้แล้ว และยังเป็นซีรีส์ที่ยังฮิตติดอันดับทั้งในประเทศจีนและประเทศไทยอย่างเราด้วยเช่นกัน ซึ่งกระแสฮอตฮิตติดเทรนของซีรีส์เรื่องนี้จึงส่งผลให้มีการทำภาพยนตร์ภาคต่อของซีรีส์ปรมาจารย์ลัทธิมารที่มีชื่อว่า “The Untamed The Living Dead” หรือ

หลังจากที่หายไปนานโดยไม่มีหนัง/ละครใหม่ ๆ เลย ฉันก็เลยมีเวลาไปดูหนังเรื่องล่าสุดที่แยกออกมาจากละครเรื่อง The Untamed, The Living Dead ภาพยนตร์ใช้เวลาประมาณ 120 นาที ติดตามการรีวิว ที่ รีวิวหนังที่ไม่เหมือนใคร (อาจน้อยกว่าด้วยเครดิตตอนจบ) เมื่อภาพยนตร์เริ่มฉันรู้สึกสูญเสีย ฉันไม่รู้จริง ๆ และไม่แน่ใจว่าจะรอดูภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างไร ฉันหมายถึงฉันได้ดู The Untamed ซึ่งมีเนื้อเรื่องพื้นฐานอยู่แล้ว ดังนั้นความจริงที่ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาคแยก ทำให้ฉันหลงคิดว่า Wei Wuxian และ Lan Wangji จะไม่อยู่ในหนังเรื่องนี้

รีวิว The Untamed The Living Dead หนังจีนสร้างจากการ์ตูน

โดยภาคนี้จะเป็นเรื่องราวที่ต่อจากภาคแรก หลังจากที่ช่วยเว่ยอิงปราบคนชั่วได้สำเร็จ ‘เวินหนิง’ หรือ ‘ขุนพลผี’ ก็ออกเดินทางเพื่อปราบคนชั่วช่วยคนดีเพียงคนเดียวโดยไม่มีเว่ยอิงเคียงข้าง จนได้เดินทางเข้าไปใน เมืองฝูเฟิง ซึ่งเป็นเมืองที่มีเรื่องราวลึกลับเกิดขึ้นและเป็นเมืองที่ดูร้างมากแต่ก็ยังมีผู้คนอาศัยอยู่บ้าง ติดตามการรีวิวของเราได้ที่ รีวิวหนังจีน ซีรีย์จีน ข่าวสารหนังจีน

แต่ในตอนกลางคืนเมืองนี้มีกฎอยู่ข้อหนึ่งคือห้ามจุดไฟเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะถูกดูดวิญญาณ ทำให้เวินหนิงไม่อาจอยู่เฉยได้จึงต้องสืบหาความจริงเรื่องราว และนั่นทำให้เขาได้เจอกับหลานชายอย่าง ‘หลานซือจุย’ เซียนจากตระกูลหลานอีกครั้ง ทั้งสองจึงได้ร่วมต่อสู้กับปีศาจร้ายและสืบหาความจริงต่าง ๆ ของเรื่องราวลึกลับทั้งหมดภายในเมืองนี้ไปด้วยกัน ทำให้ได้รู้ว่าสาเหตุทั้งหมดมาจาก ตระกูลเซียว ตระกูลเศรษฐีของเมืองนี้นั่นเองและเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นยังเชื่อมโยงกับ ‘ตราพยัคฆ์ทมิฬ’ ที่ถูกทำลายไปแล้วอีกด้วย

รีวิว The Untamed The Living Dead หนังที่ทำฉากต่อสู้แบบจีนได้ดี

โดยรวมแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้กลิ่นอายของเซียนเซียที่ดีพร้อมเอฟเฟกต์พิเศษทั้งหมด มันขาดเรื่องราวที่ชาญฉลาดซึ่งไม่ได้ให้โมเมนตัมและความตื่นเต้นเพียงพอในขณะที่ดู ฉันสามารถพูดได้ว่าฉันดูจนจบเพราะฉันมีความทรงจำและความผูกพันกับ The Untamed ดังนั้นนี่จึงเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ฉันสามารถเกี่ยวข้องได้ ถ้าหากว่าคุณเป็นแค่ “คนเดินผ่าน” ไม่เคยดู The Untamed เลย มันยากที่จะเชื่อมต่อกับสิ่งที่พวกเขากำลังพูดถึง เนื่องจากตลอดทั้งซีรีส์ พวกเขาจะพูดถึง Wei Wuxian, Gusu Lan Clan, Yin Metal และมันปรากฏขึ้นมาได้อย่างไรเมื่อมันควรจะเป็น ที่จะถูกทำลายไปแล้ว

สิ่งหนึ่งที่ฉันชอบเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ก็คือ He Long Long อยู่ในซีรีส์นี้อีกครั้ง ฉันแบบ โอ้ ที่รัก ดูเหมือนว่าฉันกำลังดูดาวรุ่งดวงอื่นที่กำลังสร้างอยู่ ครั้งแรกที่ฉันดูเขาในทะเลทรายเป็น Huo Daofu แม้จะเป็นผู้มาใหม่ (ฉันคิดว่า?) เขาก็แสดงท่าทางที่ฉันไม่สามารถถอดได้ เพราะถึงแม้จะเป็นน้องใหม่เขาก็เก่งมาก Takeaway ที่ใหญ่ที่สุดคือเขาแสดงในละครที่ฉันชอบ (ซึ่งก็คือ Sand Sea) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Nine Gates และปัจจุบันเป็นผู้นำครอบครัว Huo การได้เห็นเขาแสดงละครมากขึ้นทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้น

เมื่อฉันเห็นรูปร่างหน้าตาของเขา ฉันคิดว่าโอ้ เขารับบทเป็นตัวร้ายอีก ฉันจะไม่บ่นว่าเขาเป็นคนร้ายใน Sand Sea และแม้กระทั่งที่นี่ แต่ของฉัน ฉันคิดผิด เขาทำผิดซึ่งคุณต้องดูตัวเอง (นี่คือสปอยล์อยู่แล้ว) ฉันขอแนะนำให้แฟน The Untamed รับชมแม้พวกคุณจะพูดถึงนักแสดง Wen Ning อย่างบ้าคลั่งก็ตาม แม้ว่าจะไม่ได้ให้สิ่งที่คุณแสวงหาและปรารถนาใน The Untamed แต่ก็เป็นภาพยนตร์ที่น่าดู

เป็นหนังจีน The Untamed The Living Dead ที่เนื้อเรื่องดีมาก

ความรู้สึกหลังดูจบ ที่มีให้สำหรับเรื่องนี้ The Untamed The Living Dead

ซึ่งในภาคนี้เราได้เห็นตัวละครที่ดูโตขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นมากหากจะเปรียบเทียบจากซีรีส์ เพราะเวินหนิงสามารถคิดเองตัดสินใจอะไรเองได้มากกว่าตอนที่อยู่กับเว่ยอิง แถมยังฉลาดมากขึ้นอีกด้วย โดยส่วนตัวชอบที่นำเอาโซ่ที่เคยใช้ล่ามในซีรีส์มาใช้เป็นอาวุธในภาคนี้ แล้วก็ได้นำเคล็ดวิชาต่าง ๆ ของเว่ยอิงมาใช้เองอีกด้วย

ในส่วนของซือจุยเองก็ดูโตขึ้นสามารถเอาตัวรอดคนเดียวได้โดยไม่ต้องมีเดอะแก๊งค์เหมือนในซีรีส์ มีการนำฉินของตัวเองมาใช้ในการต่อสู้เพิ่มขึ้น และยังเก่งมากอีกด้วยทำให้เขาดูโตขึ้นมากจากซีรีส์ คงเป็นเพราะเรื่องราวในภาพยนตร์ภาคต่อเรื่องนี้เหตุการณ์น่าจะเกิดหลังจากซีรีส์หลายปีอยู่เลยทำให้ทั้งคู่ดูโตขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะขุนพลผีของเราในภาคนี้หล่อและเท่ขึ้นมากกว่าเดิมอีกค่ะ

และในส่วนภาพและCGก็ถือว่าทำออกมาได้ดีพอสมควร ถึงแม้จะมีจุดที่ดูไม่เหมือนจริงไปบ้าง แต่ก็พอให้อภัยได้เพราะเนื้อเรื่องสนุกและเข้มข้นน่าติดตามไม่แพ้ซีรีส์เลย แต่ความจริงอยากให้ภาคต่อเป็นซีรีส์มากว่าสัก 10 ตอนก็ยังดี ( ความเห็นส่วนตัวของคนที่ตัดใจจากปรมาจารย์ลัทธิมารไม่ลงซักที ) โดยการขยายเนื้อเรื่องเพิ่มขึ้นอีกนิดเพราะเราชอบนักแสดงของปรมาจารย์ลัทธิมารทุกคน ฝีมือการแสดง การสื่ออารมณ์ต่าง ๆ ถือว่าเก่งมาก ๆ เพราะงี้เราถึงติดอยู่แต่เรื่องนี้วนดูไม่จบไม่สิ้นสักที ถ้าหากทุกท่านชื่นชอบการรีวิวของเรา สามารถติดตามการรีวิวของเรา แบบไม่ขาดช่วงได้ที่ รีวิวหนังจีน