รีวิว The Yinyang Master หยิน หยาง ศึกมหาเวท – ซีรีส์แนวแฟนตาซี ย้อนยุค ดราม่า
‘The Yinyang Master’ หรือชื่อไทย ‘หยิน หยาง ศึกมหาเวท’ เมื่องูปีศาจฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง เหล่าปรมาจารย์แห่งหยินหยางจึงต้องร่วมมือกันอีกครั้งในการไขปริศนาฆาตกรรมและปกป้องอาณาจักรของพวกเขาจากการแผนสมรู้ร่วมคิดอันชั่วร้าย
- ชื่อเรื่อง: The Yinyang Master / หยิน หยาง ศึกมหาเวท
- ประเภท: แฟนตาซี, การเคลื่อนไหว การผจญภัย
- ภาษาต้นฉบับ: จีน
- ผู้กํากับ: จิงหมิงกั๋ว
- ผู้เขียน: Jingming Guo
- วันที่วางจําหน่าย (สตรีมมิ่ง): 5 Feb 2021
- เวลาเต็มเรื่อง: 2ชั่วโมง 12นาที
- สร้างโดย: Hehe (Shanghai) Pictures, เซี่ยงไฮ้ฟิล์มกรุ๊ป
ติดตามเรื่องราวการต่อสู้ระหว่างปรมาจารย์แห่งหยินหยางกับความช่วยร้ายอันดำมืดได้ที่: ดูหนังใหม่
รีวิว The Yinyang Master หยิน หยาง ศึกมหาเวท ซีรีส์แนวแฟนตาซี ย้อนยุค ดราม่า
ต้องขอเกริ่นก่อนว่า ”The Yinyang Master” คือหนังสดใหม่ที่เพียงแค่มีเนื้อหาคล้ายคลีงกันกับ Dream of Eternity ซึ่งไม่ไช่หนังภาคต่ออย่างแน่นอน และแทบจะไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กันเลย หรือก็คือคนละเส้นเรื่องคนละไทม์ไลน์นั่นแหละครับ แม้ว่าทั้งสองเรื่องนี้จะเป็นการรีเมคมาจากนิยายต้นฉบับ Onmyoji เหมือนกัน แต่เราต้องแยกให้ออกก่อนว่าทั้งสองเรื่องนี้อยู่คนละจักรวาลกัน ฉะนั้นไม่งงนะครับ ซึ่งหลาย ๆ คนก็อาจจะคุ้นเคยกับชื่อ Onmyoji ซึ่งมันก็คือเกม MOBA ในมือนั่นแหละ หากว่ากันตามความเป็นจริงแล้ว The Yinyang Master เป็นการรีเมคจากเกมมือถือ Onmyoji ซึ่งเป็นแนว RPG ไม่มีความจิ้นวาย แต่เป็นแนวแอ็คชั่นแฟนตาซี ดราม่า และแอบแทรกตลกไร้สาระเข้ามา แบบจัดเต็มกันเลย สำหรับต้นฉบับนิยาย เป็นผลงานคลาสสิกของญี่ปุ่น เขียนโดย บาคุ ยูเมะมาคุระ ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1986 เล่าเรื่องราวขององเมียวจิในตำนานที่ชื่อ อาเบะ โนะ เซย์เมย์ ซึ่งในฉบับจีนทั้งสองเวอร์ชั่นใช้คำว่าปรมาจารย์จอมเวทย์หยินหยางตามตำนานแล้ว เซย์เมย์ เป็นองเมียวจิที่มีตัวตนจริง และมีชื่อเสียงโด่งดังมากในสมัยเฮอัน มีความสามารถในด้านวิชาเวทย์มนต์และการควบคุมเหล่าปีศาจและภูติรับใช้มาเป็นบริวารของตนเอง แล้วยังเชื่อว่าเขาเป็นลูกครึ่งระหว่างมนุษย์และปีศาจจิ้งจอกด้วย เรื่องราวขององเมียวจิและเซย์เมย์นั้นได้รับความนิยมทั่วเอเชีย สร้างอิทธิพลมากมายในด้านวรรณกรรม ภาพยนตร์ สื่อบันเทิงต่างๆ อนิเมะ ซีรีส์ ไปจนถึงเกมออนไลน์ ทางจีนเองก็ซื้อลิขสิทธิ์เอามาสร้างเป็นภาพยนตร์ทั้งสองเวอร์ชั่นที่เราเห็นกัน ซึ่งในเวอร์ชั่นนี้ ต้องยอมรับเลยว่า นี่แหละคือ ปรมาจารย์หยินหยาง ที่ผู้เขียนคาดหวังว่าจะได้รับชม แถมสร้างออกมาได้ดีกว่าที่คิด ได้กลิ่นอายของหนังจีนกำลังภายในและแฟนตาซีจากยุค 90 และต้นยุค 2000 ที่เต็มไปด้วยฉากแอ็คชั่น CG กราฟฟิก ที่อาจจะดูลอยๆและเฟคไปบ้างในบางจุด แต่ในภาพรวมแล้วก็ถือว่าทำได้ดีในระดับมาตรฐาน อีกทั้งยังเต็มไปด้วยสีสันฉูดฉาด ไม่ได้ทำให้เรื่องออกมาโทนมืดหม่นเกินไป แม้ว่าเอาเข้าจริงตัวเรื่องมันแอบดาร์กและดราม่าพอสมควร สำหรับฉากแอ็กชั่นถือว่าจัดเข้ามาแทบจะตลอดเรื่อง เรียกว่ามีช่วงเวลาให้พักจากฉากแอ็คชั่นพอเพลาๆ แล้วก็กลับมาลุยกันใหม่
ติดตามหนังเรื่องอื่น ๆ ได้ที่: รีวิวหนังจีน
เรื่องย่อ
”The Yinyang Master หยิน หยาง ศึกมหาเวท” จะบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสองเผ่าพันธ์ที่ไม่ลงรอยกันมาตั้งแต่อดีตกาล สองเผ่าพันธุ์ที่ว่านั้นคือ ‘มนุษย์’ และ ‘ปีศาจ’ ที่มีประวัติศาสตร์การต่อสู้กันที่ยาวนานกว่าร้อยปีโดยไม่มีทีท่าวันจะยุติลง จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อราชาปีศาจงูพ่ายแพ้ให้กับมนุษย์ จอมปีศาจจึงถูกผนึกไว้โดยปรมาจารย์หยินหยางโลกจึงกลับมาสงบสุขอีกครั้ง แต่ก็ทำให้มนุษย์และปีศาจที่เคยอาศัยอยู่ร่วมกันได้ตัดขาดจากกัน พวกปีศาจจะอาศัยอยู่ในเมืองของเหล่าปีศาจ แต่หากหลุดออกมาโลกมนุษย์ก็จะถูกมนุษย์จัดการ กระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่ ฉิงหมิง (แสดงโดย เฉินคุน) ลูกครึ่งมนุษย์และปีศาจ ศิษย์ของสำนักหยินหยาง ซึ่งถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนทำลายผนึกกักขังมาร จึงต้องหนีออกมา แล้วใช้ชีวิตร่วมกับเหลาปีศาจที่ไร้ที่พึ่งแล้วเขารับมาเป็นบริวาร เขาได้กลับมาพบกับคนรักเก่าในอดีตคือ ไป๋หนี่ (แสดงโดย โจวซวิ่น) และได้พบกับผู้คนมากมาย เช่น ป๋อหย่า หัวหน้าองครักษ์ที่ต้องการตามล่าเขา และ เฉินเล่อ หญิงสาวที่ต้องการมาเป็นบริวาร ฉิงหมิงยังต้องตามหาปีศาจที่ทำให้ชีวิตของเขาพลิกผันเพื่อแก้แค้น และสะสางความบริสุทธิ์ของตนเองด้วย
ซีรีส์จีนที่ถูกดัดแปลงมาจากนิยายชื่อดัง ‘Onmyoji’ พร้อมนำมาต่อยอดให้สนุกกว่าเดิม
แม้จะถูกดัดแปลงมาจากนิยายอย่าง Onmyoji แต่หนังก็ไม่ได้ลอกมาแบบเป๊ะ ๆ เพราะตัวหนังยังคงสร้างสรรค์ The Yinyang Master ให้เป็นในแนวทางของตัวเองแต่ก็ไม่ลืมที่จะเคารพต้นฉบับ ในจุดนี้ต้องชื่นชมเขาจริง ๆ ที่ทำหนังออกมาได้มีจรรยาบรรณเช่นนี้ เรื่องราวของนวนิยายเรื่องนี้ได้บอกเล่าเรื่องราวของเหล่าปรมาจารย์หยินหยางที่เก่งที่สุด 4 คนที่ได้ถูกเรียกตัวไปยังเมืองหลวงเพื่อสังหารปีศาจงู ปีศาจงูตนนี้จะตื่นขึ้นเพียงหนึ่งครั้งในรอบ 100 ปี เท่านั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดยหนุ่มหล่อที่เป็นดาราชั้นนำของประเทศจีนอย่าง จ้าวโย่วถิง (Eternal Love), เติ้งหลุน (Ashes of Love), เจสซี หลี่ (Port of Call) และหวังจื่อเหวิน (The Postmodern Life of My Aunt) เรื่องนี้ผ่านการกำกับโดย Guo Jingming และนักแสดงหลายคนที่แสดงเรื่องนี้ก็เคยปรากฏตัวในผลงานก่อนหน้านี้ของ Guo Jingming ในฐานะผู้กำกับมาแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ผลิตโดย Hehe Pictures, ZUI, Thinkingdom Pictures, Shanghai Film Group และ Black Ant film บอกเลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อีกเรื่องที่คุณต้องดูจริง ๆ ครับ
รีวิว The Yinyang Master หยิน หยาง ศึกมหาเวท ซีรีส์แนวแฟนตาซี ย้อนยุค ดราม่า
ตัวหนังไม่ได้ทำให้คนดูเครียดเลยแม้แต่นิดเดียว แม้หนังจะออกแนวจริงจัง แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะขายความหัวเราะอยู่หลายฉากและก็ดราม่าหลายฉากเช่นกัน ภาคนี้เน้นที่มิตรภาพของผองเพื่อนเรียกน้ำตาเอาเรื่องเลยครับ นอกจากนี้ยังนำเสนอในมุมมองของปีศาจมากขึ้นสื่อให้เห็นว่าปีศาจมีดีมีชั่ว ส่วนตัวผู้เขียนไม่เคยเล่นเกมมือถือนี้มาก่อนเลยไม่รู้ว่าหนังที่ออกมามีจุดเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร แต่ถ้าหากเทียบกับภาค หยินหยางศึกมหาเวทย์สะท้านพิภพ: สู่ฝันอมตะ คาแรกเตอร์ของฉิงหมิงค่อนข้างจะแตกต่างพอสมควรเลย เรื่องนี้จุดแข็งอยู่ที่ CG ภาพสวยตาแตก ๆ ละมุนทุกจุดแทบไม่มีลอยให้เห็นเลย ไม่ว่าจะเป็นตัวบริวารปีศาจของท่านฉิงหมิงเอย ซีจีฉากใช้คาถาเอย ดีงามแบบทีมผู้สร้างต้องทุ่มเวลาหามรุ่งหามค่ำทำซีจีแน่นอน
สำหรับในส่วนของเนื้อเรื่องและการดำเนินเรื่อง ส่วนตัวผู้เขียนมองว่าเฉย ๆ คือไม่ได้ทำออกมาดีจ๋า ๆ แล้วก็ไม่ได้ทำออกมาห่วยแบบรับไม่ได้ คืออยู่ในเกณฑ์มาตรฐานกำลังดี ส่วนอีกหนึ่งข้อดีอย่างเห็นได้ชัดอีกข้อหนึ่งคือโลเคชั่นและฉากไม่ว่าจะเป็นฉากที่สร้างขึ้นหรือฉากที่แต่งเติมเสริมซีจีออกมาอลังการงานว้าวมากส่วนตัวผู้เขียนชอบฉากและองค์ประกอบของจวนท่านฉิงหมิงที่สุดครับ เหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยายน่าอยู่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นเหมือนที่พึ่งพิงสุดท้ายของเหล่าบริวารปีศาจตัวน้อย แต่ถ้ายกให้ความฉากเล่นใหญ่เล่นโตคงต้องเป็นฉากในแดนปีศาจทั้งอารีน่าปีศาจ บรรยากาศในเมือง หรือสะพานข้ามไปยังแดนปีศาจยอมรับว่าสร้างออกมาดีทุกจุดจริง ๆ ข้าน้อยขอคุกเข่าคาระวะทีม CG ด้านนักแสดงเล่นดีทุกท่าน เครื่องแต่งกายเหมาะสมกับคาแรกเตอร์ตัวละครแต่ผู้เขียนยังรู้สึกว่าไม่วิจิตรตระการตาเท่าไหร่ดูซ้ำซาก และจุดสุดท้ายที่ผู้เขียนค่อนข้างชอบในหนังเรื่องนี้คือความหาทำหาสร้างสรรค์ไม่ว่าจะเป็น Mask ผ้ายันต์กันติดเชื้อปีศาจคลั่ง, มือที่มีรูปลักษณ์แมงมุม และสนามประลองของปีศาจอารมณ์เหมือนสนามมวยคาดเชือกยังไงอย่างงั้น
บทสรุปหลังดู The Yinyang Master หยิน หยาง ศึกมหาเวท
ก่อนดูหลาย ๆ คนอาจจะกังวลว่านี่จะเป็นหนังจีนสายวายแบบ 100% หรือเปล่า เพราะมันมีอยู่จริง ๆ นะคนที่เอียนซีรีส์วายหนังวาย แต่ส่วนตัวผู้เขียนเฉย ๆ ไม่ได้อะไร ผู้เขียนต้องขอยืนยัน ณ ตรงนี้เลยว่าหนังไม่ได้พยายามจะทำแบบนั้นเลย เพียงแต่หนังจะแสดงให้เราเห็นถึงมิตรภาพระหว่างลูกผู้ชายในฐานะเพื่อนไม่ไช่คนรัก แต่ถ้าถามว่าเคมีระหว่างนักแสดงนำเข้ากันไหม? ตอบเลยครับว่า…เข้ากันมาก ซีนไหนที่สบตาเป็นห่วงเป็นใยกันท่านฉิงหมิงและท่านป๋อหย่าอาจจะไม่เขินแต่ผู้ชมทางบ้านอย่างผู้เขียนรีบกระโดดลงเรือแจวให้ไวเลยครับ ในส่วนของนักแสดงทีมผู้ผลิตแคสนักแสดงเหมาะกับบททุกตัวละครโดนเฉพาะ โส่วเยว่ รับบทโดย หวังตั่ว ท่านนี้แสดงดีมากออร่าจับก่อนหน้านี้ผู้เขียนเคยผ่านตาผลงานเรื่อง สงคราม 7 จอมเวทย์ ของเขามาเหมือนกันแต่ไม่ได้รู้สึกว้าวเท่าเรื่องนี้ถึงจะรับบทร้ายแต่มีเสน่ห์แถมรักมากนะครับ ด้านเครื่องแต่งกายเครื่องหน้าเครื่องหัวก็สวยอลังการงานปังเช่นกันครับ นอกเหนือจาก CG ที่ทำดีจนขนลุกแล้วยังมีเรื่องฉากและโลเคชั่นที่ทีมผู้สร้างเลือกได้ดีมากอีกด้วย สรุปเลยโดยรวมของเรื่องนี้ถือว่าถูกใจสายงานภาพและพลังมิตรภาพที่สุดครับ
ท่องยุทธภพกับซีรีส์จีนแนวผจญภัยแฟนตาซีสุดมันส์ได้ที่: รีวิว The Blood of Youth ดรุณพเนจรท่องยุทธภพ
