รีวิวซีรีย์ Partners for Justice

ไม่รู้ว่าคุณจะเป็นเหมือนผมมั้ย แต่ผมเป็นประเภทไม่ชอบความจำเจ หลังดูซีรีส์แนวหนึ่งไป เรื่องถัดมา ผมก็มักจะมองหาซีรีส์อีกแนวที่แตกต่างออกไปจากเรื่องก่อน ถัดจากซีรีส์ดราม่าครอบครัวอย่าง ’18 Again’ คราวนี้ ผมก็หันมาซีรีส์แนวสืบสวนและแนวอัยการทันที อาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่และอาจไม่มีใครพูดถึงกันมากนัก แต่อยากจะลองเขียนถึงบ้าง ผมกำลังพูดถึง ‘Partners for Justice’ ครับ ดูได้ที่ ดูหนัง

 

 

คราวนี้เป็นซีรีส์จาก MBC บ้าง กับการแสดงของนางเอกที่ยังไม่คุ้น แต่ตัวพระเอกและตัวสมทบต่างๆ ค่อนข้างคุ้นหน้าพอสมควร เรื่องราวของอัยการสาวหมาดๆ ที่เพิ่งจบมาและเข้ามาทำหน้าที่เป็นครั้งแรก และก็ได้มาพบเจอกับเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพในสถาบันนิติวิทยาศาสตร์คนที่มีปมอดีตและมีบุคลิกแข็งกร้าว

มันเป็นเรื่องราวของ อึนซอล (Jung Yoo Mi/จองยูมี จากซีรีส์เรื่อง ‘The Legend of the Blue Sea’, ‘Rooftop Prince’ และ ‘Priest’) ลูกสาวในตระกูลไฮโซ พ่อแม่ของเธอก็ไม่ได้ต้องการให้ลูกทำงานนี้หรอก หวังแค่ให้จบมาแล้วแต่งงานกับผู้ชายที่แม่หาให้เท่านั้น

แต่อึนซอลมีความนิยมชมชอบในซีรีส์ฝรั่งแนวสืบสวนอย่างมาก เธอจึงมุ่งมั่นสอบเนติและเรียนจบด้านกฎหมายได้อันดับหนึ่งของรุ่น และในที่สุด เธอก็ได้เป็นอัยการสมใจ

และมันเป็นเรื่องราวของ แบคบอม (Jung Jae Young/จองแจยอง ส่วนใหญ่เขาจะเล่นหนัง แต่ซีรีส์ก็มี ‘Duel’ และ ‘Assembly’) อดีตแพทย์ที่พบเจอปัญหาบางอย่างในอดีต ทำให้ต้องหันเหมาเป็นหมอผ่าศพ มือชันสูตรที่ค่อนข้างโผงผาง ตรงไปตรงมา เอาจริงเอาจัง (บางทีก็เอาจริงเอาจังเกิ๊น) แต่ที่จริงเขาเป็นหมอที่เก่งมาก ทำงานเป็นหมอนิติเวชมา 10 ปี จนได้มาเจอกับอัยการสาวคนใหม่อย่างอึนซอลนี่แหละ

อัยการอึนต้องมาพบกับรุ่นพี่อย่างอัยการคัง (Park Eun Seok จากซีรีส์เรื่อง ‘Doctor Prisoner’, ‘Penthouse’ และ ‘Voice 2’) ที่ประสบการณ์มากกว่าแต่ก็เคยต้องรับมือกับแบคบอมมาก่อน มีผู้หมวดหนุ่มชาซูโฮ (Lee Yi Kyung/อีอีคยอง จากซีรีส์เรื่อง ‘Welcome to Waikiki’ และ ‘Hotel Del Luna’) และก็ยังมีสเตลล่า ฮวัง (Stephanie Lee/สเตฟานี่ ลี จากซีรีส์เรื่อง ‘Start-Up’ และ ‘The Last Empress’) นักพิษวิทยาสาวผู้มาดมั่น

 

 

รีวิวซีรีย์ Partners for Justice

 

ไม่พอยังมีหัวหน้าอัยการที่คุ้นหน้าอย่าง โนฮันชิน (Ahn Suk Hwan จากซีรีส์ ‘The Uncanny Counter’, ‘Was It Love’ และ ‘100 Days My Prince’) อีกด้วย เท่าที่ดู มันมีทั้งความเป็นซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวน เป็นซีรีส์แนวคดีฆาตกรรมเพราะมีแต่การฆ่าและคนตาย แถมยังเป็นซีรีส์ที่เล่าเรื่องอัยการและการว่าความในศาลด้วย

หมอนิติเวชผู้มีความหลัง กับอัยการสาวผู้ไร้ประสบการณ์ เอาจริง มันก็คือการเล่าเรื่องของการทำงานร่วมกันของสามสี่ฝ่าย ทั้งหมอผ่าศพที่เชี่ยวชาญในการผ่าพิสูจน์ร่องรอยเบาะแสที่จะบอกสาเหตุและผ่านไปถึงแรงจูงใจ รวมทั้งบอกได้ด้วยว่า ใครกันแน่ที่เป็นฆาตกร ทั้งตำรวจที่เข้ามาสืบคดี ทั้งนักพิษวิทยาที่จะบอกว่าในฆาตกรรมแต่ละครั้งมีสารอะไรบ้างที่ถูกใช้ แน่นอน อัยการที่ดูแลในเชิงกฎหมายและการว่าความ

แต่เรื่องนี้ เขาวางให้อัยการเป็นตัวขับเคลื่อนคดี โดยให้อัยการสาวสวยมือใหม่ที่มีทั้งความจิตใจดี แต่บางทีก็ทำตัวงี่เง่า เข้ามาจับคดีฆาตกรรมตั้งแต่แรกเริ่ม แถมยังต้องมาทำงานร่วมกับแบคบอม คนที่อัยการคังก็เคยมีปัญหาในการทำงานร่วมกันมาก่อน แบคบอมมักจะบอกว่าอัยการอึนชอบแต่งนิยาย ชอบวาดภาพเรื่องราวจากสิ่งที่รวบรวมได้ ตัวเขาเองยังเชื่อในสิ่งที่ได้จากศพไม่ได้เลย

รีวิวซีรีย์ Partners for Justice

เอาจริงๆ ศพก็พอจะบอกอะไรได้เยอะแหละ แต่ก็จำเป็นต้องพึ่งพาจินตนาการของฆาตกรรมไปด้วย แม้หลายครั้งจะทำให้หลงทางไปบ้างก็ตาม ยิ่งผ่านไปทีละตอน ผู้ชมก็จะยิ่งได้พบว่าหมอชันสูตรอย่างแบคบอม คนนี้ ภายใต้บุคลิกโผงผาง เอาจริงเอาจัง ของเขานั้นมันมีอะไรที่ซุกซ่อนอยู่ อย่าลืมไปรับชมที่ ดูหนังฟรี

 

 

 

เขาเคยทำงานเป็นแพทย์ในโรงพยาบาลอีกแห่ง และมีความหลังอะไรสักอย่าง มือของเขาสั่นวันที่ผ่าเจอทารกในครรภ์ของผู้ตาย แล้วเรื่องราวก็พาเรากลับไปพบกับที่ทำงานเก่าของเขา น่าสนใจว่า มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ จึงทำให้เขากลายเป็นหมอชันสูตรที่เงินเดือนต่ำกว่าแบบวันนี้

งานนิติเวชคือหัวใจของเรื่อง พระเอกคือหมอผ่าศพ ซีรีส์เรื่องนี้ ผมไม่แน่ใจว่ามีชื่อไทยว่าอะไรกันแน่ เพราะใน Netflix ก็ไม่ระบุชื่อไทยไว้ แต่ใน Viu ที่ตอนนี้มีเฉพาะซีซันสอง จะระบุไว้เป็น ศพซ่อนปม สำหรับผมแล้ว มันมีความแตกต่างจากซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนอยู่พอสมควร คือ เรื่องราวมันเน้นการสืบคดีก็จริง แต่มันเน้นไปที่คดีฆาตกรรมและทีมงานหลักครั้งนี้ เป็นทีมในส่วนงานนิติเวช

งานส่วนนี้ก็จะมีทั้ง การผ่าชันสูตรพลิกศพ ที่มีแบคบอม เป็นตัวหลัก มีผู้เชี่ยวชาญด้านสารเคมีอย่างนักพิษวิทยาสาวมั่นอย่างสเตลล่า ฮวัง

นอกจากนี้ยังมีขั้นตอนในการเก็บหลักฐานต่างๆ โดยที่มีอัยการมือใหญ่ที่มุ่งมั่นในงานของตัวเองมาก แม้จะเพิ่งจับงานนี้ อาจจะยังไม่คุ้นเคยและอ่อนประสบการณ์ไปบ้าง แต่เธอก็ฉลาดมากพอตัว และค่อยๆ เก็บความผิดพลาดเป็นบทเรียน คดีต่อๆ มา เธอจึงดูเชี่ยวขึ้นเรื่อยๆ

เรื่องราวจะมีหมด ตั้งแต่การเก็บข้อมูลจากศพ รับส่งข้อมูลให้นักพิษวิทยาช่วยตรวจสอบ ประสานข้อมูลจากตำรวจ การสอบสวนผู้ต้องสงสัย การออกพื้นที่ตระเวณไปเก็บข้อมูล แม้กระทั่วเอาตัวเองไปเสี่ยงก็มี และปิดท้ายที่ห้องพิจารณาคดี จนบางทีก็สงสัยว่า เป็นอัยการเนี่ย

มันต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ แม้จะเป็นซีรีส์ที่ออกอากาศมาตั้งแต่ 2018 แถมยังมีซีซันสอง แต่ก็ยังนับว่าเรื่องที่ดูได้สนุกกับการสืบสวนสอบสวนคดีฆาตกรรมที่สามารถพลิกผันได้ตลอดเวลา แถมคนดูอย่างเราก็ยังสนุกกับการได้คาดเดาฆาตกรตัวจริงไปพร้อมกับตัวละครด้วย เราจะได้เห็นรายละเอียดเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในการทำงานส่วนต่างๆ เพื่อสืบคดีฆาตกรรมหนึ่งๆ พร้อมๆ กันไปกับได้เรียนรู้เรื่องราวเบื้องหลังของแบคบอม แถมยังต้องเอาใจช่วยอัยการอึนให้เอาชนะครอบครัวที่ไม่เห็นด้วยการอาชีพของเธอไปพร้อมๆ กัน ไปรับชมเลยที่ดูหนังออนไลน์

 

 

ยิ่งซีซันสอง ยิ่งสนุกกว่า หลังจากซีซันแรกปูมาให้นางเอกคืออัยการสาวหน้าใหม่ที่เพิ่งได้มาเรียนรู้งานสืบคดีและว่าความโดยต้องทำงานร่วมกับเหล่าคนจากศูนย์นิติฯ มาซีซันสอง เธอเชี่ยวมากขึ้น ขณะเดียวกัน คดีที่เธอได้รับมาก็ยากขึ้น ซับซ้อนขึ้นเช่นกัน รายละเอียดที่ชักพาให้สับสนและหลงทางได้ง่ายๆ ขนาดคนดูอย่างเราๆ ก็ยังคาดเดาอะไรได้ผิดไปหลายคดี

ซีซันนี้ จะไม่มี ผู้หมวดหนุ่มชา และสเตลล่านักพิษวิทยา แต่มีแซลลี่ นักพิษวิทยาจากอเมริกามาร่วมสืบคดี ขณะที่อัยการคังก็ไม่ค่อยเห็นหน้าร้างลาวงการ แต่กลับมีอัยการโด (Oh Man-Seok) เข้ามาแทนซึ่งก็ทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยม แถมยังกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากับหัวหน้าอัยการคัล (Lee Do-Guk) ที่ย้ายมาด้วยเส้นแต่เหมือนจะทำอะไรผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า จึงเรียกได้ว่า ซีซันสองเข้มข้นชวนติดหนึบมากกว่าซีซันหนึ่งหลายเท่าตัว มีแต่คนบอกว่าน่าจะมีซีซันสาม ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะมาหรือไม่และเมื่อไหร่

ซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้เป็นแนวสืบสวนสอบสวนโดยเน้นการประสานงานระหว่างอัยการกับเหล่าทีมงานนิติเวช เน้นคดีฆาตกรรมที่ต้องสืบจากศพกันโดยเฉพาะ มีหลากหลายคดีที่ต้องสืบและคนดูต้องร่วมคาดเดาฆาตกร ผิดบ้างถูกบ้าง เรื่องราวแทรกเบื้องหลังปมของหมอผ่าศพ กับเรื่องครอบครัวของอัยการหญิงมือใหม่ สนุกได้ทุกตอนแม้จะเจออัยการงี่เง่าไปบ้างบางที

รีวิวจากผู้ชมทั่วโลก

ผู้ตรวจสอบทางนิติเวชผู้สันโดษและพนักงานอัยการที่มีไหวพริบมักจะข้ามเส้นทางในการปฏิบัติหน้าที่ของตน เช่นเดียวกับหลายๆ โปรแกรมเหล่านี้ วิทยาศาสตร์ที่เป็นดาวเด่นของจริง ซีรีส์ที่ดำเนินมาอย่างดีซึ่งมีการพลิกผันมากมาย แต่พึงระวังว่ายังมีฉากการชันสูตรพลิกศพที่เหมือนจริงอยู่มากมาย ตามเชิงอรรถ ฉันได้อ่านบทความหนึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ที่กล่าวว่าโปรแกรมเช่นนี้ทำให้อัยการโน้มน้าวคณะลูกขุนได้ยากขึ้นว่าผู้คนมีความผิด เพราะพวกเขาคาดหวังข้อมูลที่ชัดเจนเช่นโปรแกรมประเภทนี้ ไปดูกันเลยที่ เว็บดูหนังฟรี

 

 

ฉันเคยดูละครญี่ปุ่นกับอเมริกาเรื่องหมอนิติเวชด้วย ละครเกาหลีเรื่องนี้ดีที่สุด เห็นแล้วรู้เลยจริง ๆ ว่าห้องให้นิติเวชตรวจดูศพไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่หรือตำรวจเข้า ต้องดูขั้นตอนการสอบผ่านผนังกระจกนอกห้องสอบ ทุกอย่างในละครเป็นเรื่องจริง

เนื้อเรื่องแต่ละคดีก็เยี่ยมมาก ดึงดูดให้คุณติดตามจนจบ นักแสดงนำชายไม่ใช่โอปป้าที่หล่อเหลา แต่เป็นชายวัยกลางคนที่น่ารังเกียจผิวสีดำ ลักษณะและรูปร่างหน้าตาของเขาทำให้ละครเรื่องนี้ไม่ธรรมดาสำหรับละครปกติ ทั้งหมดนี้เป็นละครที่ผลิตขึ้นอย่างจริงจังเพื่อสะท้อนถึงงานจริงของแพทย์นิติเวช ฉันลดเรตติ้งลงเหลือ 8 เพราะฉันไม่ชอบซีซัน 2 มากขนาดนั้น ฉันจะรอซีซั่น 3 เพื่อสิ้นสุดการทบทวน

ละครเรื่องนี้ซีซั่นที่ 1 สร้างขึ้นได้แย่มาก และมาตรฐานก็คล้ายกับละครทั่วไปทั้งหมดในปี 2015 ซึ่งแย่กว่าซีซั่น 2 มากซึ่งก็ไม่มีอะไรโดดเด่นในตอนท้าย เรื่องราวทั้งหมดชอบสร้างเรื่องบังเอิญที่มีหมัดซึ่งไม่มีจริงและสามัญสำนึก เป็นกรรมการที่ไม่ดีอีกท่านหนึ่ง ชอบเน้นการพูดภาษาอังกฤษแต่เสียสไตล์ การโต้ตอบระหว่างคนกับมนุษย์จำนวนมากนั้นไม่สมจริงและระบบเกาหลีหรือประเทศอื่น ๆ ไม่เคยทำงานเหมือนละครเรื่องนี้แสดงให้เห็น ผู้อำนวยการไม่รู้อะไรเกี่ยวกับระบบและขั้นตอนระดับรัฐบาล การแสดงและเรื่องราวหลายๆ รูปแบบนั้นล้าสมัยไปแล้ว และเรียกได้ว่าแย่ยิ่งกว่าละครเอเชียหลายๆ เรื่องเสียอีก

 

รีวิวซีรีย์ Partners for Justice

 

ฉันดูทั้งซีรีย์ที่ 1 และ 2 และมันไม่มีอะไรนอกจากความยินดีที่ได้สำรวจเรื่องราวของซีรีส์นี้ ประเภทของอาชญากรรมยกระดับขึ้นด้วยวิธีการสืบสวนที่น่าสนใจที่สุดเท่าที่เคยมีมาซึ่งนำโดยจองแจยอง การคัดเลือกนักแสดงในซีรีส์นี้มีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ถ้าคุณคิดว่าคุณดูหมดแล้ว บอกเลยว่าคุณยังไม่ได้ดูซีรีส์นี้ ต้องดู!!! เนื้อเรื่องก็โอเค แม้ว่าจะเป็น CSI ฉบับเอเชีย แต่ที่กวนใจจริงๆ คือจำนวนการผ่าตัดของนักแสดงหนุ่ม ใบหน้าในอนิเมะญี่ปุ่นดูสมจริงกว่า

เรื่องนี้จึงให้ 10 เต็ม 10 ซีรีส์ที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งที่ฉันเคยดูมา ด้านลงสำหรับ 8 แทนที่จะเป็น 10 คือ: การเบลอของอาวุธและซากศพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งฉันเข้าใจว่าทำไม แต่ไม่ควรเซ็นเซอร์ในชุดที่มีเนื้อหาส่วนใหญ่มาจากการตรวจสอบศพ ในซีซันที่ 2 เด็กสาวคนใหม่จาก NFS (พิษวิทยา) พูดภาษาอังกฤษได้น่ารำคาญนิดหน่อย ฉันเดาว่าคงเป็นเพราะคนแรกพูดด้วย แม้ว่าภาษาอังกฤษของเธอจะชัดเจนมาก แต่ภาษาอังกฤษจากสาวคนใหม่กลับไม่พูดเลย การเขียนเป็นเรื่องเหลือเชื่อและวิธีที่พวกเขาเปิดเผยว่าเตียงว่างเปล่านั้นวิเศษมาก รอซีซั่น 3 อย่างใจจดใจจ่อ! และนั่นเป็นเหตุผลเพียงพอที่จะดูหนังเรื่องนี้ รีวิวหนังจีน