รีวิว สยบฟ้าพิชิตปฐพี

เป็นภาคที่เปิดฉากความสามารถของตัวละครเยอะมาก เนื้อเรื่องจะเริ่มเล่าจากซังซังบาดเจ็บจากการต่อสู้ร่วมกับหนิงเชวีย (สยบซย่าโหว) หนิงเชียพาซังซังเดินทางหาคนรักษาที่วัดลั่นเค่อ เดินกลหมากผ่านด่านตามข้อกำหนดของเจ้าของสถานที่ ซึ่งมีหลวงปู่เค็มถือกระดิ่งมาตามหาบุตรของหมิงหวัง และในที่สุดบุตรของหมิงหวังพลันปรากฎขึ้น(คีย์เรื่อง) ท่ามกลางกระบี่ของหลิวไป๋ ศิษย์พี่ใหญ่(พี่เสื้อนวมกระบอกน้ำห้อยเอว)ใช้ความสามารถอันแท้จริงให้เห็นเป็นครั้งแรก และความสามารถของจวินโม่(พี่หมวกตั้ง) สองศิษย์จากสถานศึกษาออกโรงช่วยอาหนิงเป็นครั้งแรก

หลังจากจบศึกในวัดหลันเค่อ นักเขียนก็โยนเข้าเรื่องเฮ่าเทียน(คีย์เรื่อง)มีตัวตนไหม เป็นใคร.. จากนั้นก็เฉลยปมของจอมปราชญ์ว่าเหตุใดถึงมีความสามารถอยู่ดับหนึ่งของโลกนั้น ทีนี้เราก็ได้เห็นสกิลของท่านจอมปราชญ์สักที ว่าเก่งกาจขนาดไหน บอกบอกเลยว่าไม่ผิดหวังจริง ๆ โดยเฉพาะการมาของเฮ่าเทียน Vs จอมปราชญ์ลงดาบครั้งแรก

“สยบฟ้าพิชิตปฐพี” เป็นบทประพันธ์ของ Mao Ni (เมานี่) หนึ่งในนักเขียนนิยายจีนออนไลน์แถวหน้าในขณะนี้ และเรื่องนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่ 2 ของเมานี่ที่ถูกทำเป็นซีรี่ส์ เรื่องแรกคือ “Fighting of the Destiny” ที่เรียกได้ว่าเป็นผลงานสร้างชื่อของเขาออกฉายในปี 2017 ส่วนสยบฟ้าพิชิตปฐพีนั้นเป็นเรื่องต่อมาที่ออกฉายในปี 2018 ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่กระตุก (เรื่องนี้นั้น เมานี่ ได้รับรางวัล Online Literature Award ในปี 2015

และมียอดผู้อ่านออนไลน์กว่า 5,500ล้านวิว) ส่วนในเรื่องและเรื่องล่าสุดก็คือเรื่องที่ผมเขียนรีวิวไปก่อนหน้านี้ “หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร” ที่ออกฉายในปี 2019 และในปี 2020 นี้ “สยบฟ้าพิชิตปฐพีภาค 2” ก็เริ่มออกฉายแล้ว จากแค่นี้บอกเลยว่ามีนักเขียนไม่กี่คนหรอกที่ถูกนำผลงานมาสร้างละครได้ติดๆ กันขนาดนี้

เป็นซีรีส์จีนแนวกำลังภายใน มีคำกล่าวว่าเมื่อราตรีนิรันดร์มาถึง โลกมนุษย์จะพบเจอความหายนะ ต้องมาดูกัน มีตัวละครเป็น 2 ตัว หนิงเชวี่ยและสาวน้อย ซังซัง

ที่เดินทางมายังเมืองหลวงพร้อมกับร่มสีดำปริศนาที่ติดตัวแต่เกิด หนิงเชวี่ยได้ทำการเรียนวิชาจนวันนึ่งเขาเข้าสำนักอักษรชื่อดังได้ จึงทำให้เขาเริ่มฝึกฌาณเพื่อล้างแค้นคนที่ฆ่าครอบครัวเขาในวัยเยาว์ เรื่องบอกได้เลยว่าสนุกสุดๆ แถมต้องไปร่วมลุ้นอีกว่า หนิงเชวี่ย จะล้างแค้นสำเร็จไหม

 

รีวิว สยบฟ้าพิชิตปฐพี-2

 

รีวิว สยบฟ้าพิชิตปฐพี มีความเป็นมาอย่างไรมาดูกัน

เปิดไพ่ของจักจั่นยี่สิบสามวรรษ อดีตประมุขพรรคมารที่สำเร็จระดับเหนือห้าด้านและความเป็นมาของตัวละคร โดยมีบอสใหญ่ประจำภาค ‘เจ้าอาราม’ เข้ามาแทนที่จอมปราชญ์ บุกทลวงต้าถังฝ่าค่ายกลยันต์เทวะ ความอลังการของเรื่องคุณชายยกให้ ผู้ฝึกวิชาเหนือห้าด่านตีกัน ฝ่ายพุทธ มาร แสง โลกิยะ แต่เนื้อหาหลักก็ยังเป็นอาหนิงรับภาระต่อหลังจากเกิดเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น ส่วนเยี่ยหงอวี้ งมงายอังษร งมงายบุปผา มีบทเข้ามาเป็นระยะ (เน้นตัวพ่อตัวแม่อย่างเดียว)

ถึงอย่างนั้นหนิงเชวียก็ยังไม่เคยลืมความแค้นของเขาลงเลยสักนิดคอยฝึกฝนตนเองอยู่ตลอดเวลาจนจัดได้ว่าเป็นทหารที่เก่งกล้าคนหนึ่ง แต่ในโลกของ “เฮ่าเทียน” (ชื่อเทพเจ้าที่คนในยุคนั้นนับถือ) นั่นคนถูกแบงออกเป็น “คนธรรมดา” และ “ผู้ฝึกตน” ไม่ว่าคนธรรมดาจะเก่งสักเท่าไหร่ก็ไม่สามารถสู้ผู้ฝึกตนได้ หนิงเชวียพยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะเป็นผู้ฝึกตนให้ได้ แต่บรรดาปรมาจารย์ทุกคนต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า หนิงเชวีย ไม่มีพลังธรรมชาติในร่างกายเลย ทำให้เขาขาดคุณสมบัติในการฝึกตน เขาไม่สามารถฝึกตนได้อย่างแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้นหนิงเชวียก็ยังไม่ถอดใจ เขายังพยายามทำทุกอย่างให้เขาเก่งขึ้นให้ได้

จนวันหนึ่งหลังจากที่เขาบาดเจ็บปางตาย เขาก็ได้กินยาวิเศษเข้าไปและยาตัวนั้นก็สามารถทะลวงจุดชีพจรในตัวของเขาจนเขาสามารถใช้พลังธรรมชาติ และกลายเป็นผู้ฝึกตนได้ในที่สุด แต่ผู้ฝึกตนนั้นมีหลายระดับ และเป้าหมายในการแก้แค้นของเขาก็เป็นผู้ฝึกตนระดับสูงมากเสียด้วย ดังนั้นหนิงเชวียยังต้องผ่านบททดสอบอีกมากมาย พบปะกับผู้คนที่หลากหลาย ผ่านความวุ่นวายสับสน สุขเศร้าเหงารักกว่า 60 ตอนเพื่อให้ได้พบเจอเรื่องราวหักมุมแบบสุดบรรยายในตอนท้าย

อย่างที่เกริ่นไว้ครับว่า สยบฟ้าฯนั้นมีเรื่องราว เหตุการณ์ และศัพท์มากมายที่อาจจะทำให้คนดูตามไม่ทัน ผมเลยขอหยิบมารวมกันไว้ตรงนี้เพื่อให้ดูกันได้สมูทขึ้นครับ

 

รีวิว สยบฟ้าพิชิตปฐพี-9

เฮ่าเทียน: เฮ่าเทียน เป็นชื่อของเทพแห่งแสงสว่าง ผู้ศรัทธาจะเชื่อว่า เฮ่าเทียน คือทุกสิ่ง คือผู้สร้างโลก คือผู้นำทาง คือผู้ปัดเป่าความมืด
หมิงหวัง: หมิงหวัง ถ้าแปลตรงตัวก็แปลว่า “ดาวพลูโต” ผมเลยขออนุญาติเรียกว่า “ดาวมรณะ” ในบางครั้งเพื่อให้เห็นภาพได้ง่าย แต่ในเรื่องจะเรียกว่า หมิงหวัง นั่นแหละ ในสยบฟ้าพิชิตปฐพีนั้น บุตรแห่งหมิงหวังถือเป็นตัวเคราะห์ร้าย ว่ากันว่าบุตรแห่งหมิงหวังจะกำเนิดและนำ “ความมืดนิรันดร์” เข้ามาปกคลุมโลกในทุกๆ 1,000ปี ทางซีหลิงถึงพยายามตามหาตัวและกำจัดทิ้งก่อนจะเกิด ความมืดนิรันดร์เมือง ก๊ก เหล่า ในเรื่องนั้นมีมากพอสมควรแต่ชื่อหลักๆ มีดังนี้ ดูหนัง

แคว้นถัง: แคว้นถังนั้นถือเป็นเมืองที่มีอำนาจทางการทหารเข็มแข็งที่สุด แถมมีสำนักฝึกตนที่โด่งดังและเก่งที่สุดอยู่ชื่อว่า “สำนักอักษร” ซึ่งเป็นสำนักที่พระเอกได้เข้าไปเรียนการฝึกตน
ซีหลิง: ซีหลิงนั้น ไม่ได้เป็นแว่นแคว้นอะไร เป็นแค่นิกายๆ หนึ่งที่บูชา “เฮ่าเทียน” แต่ด้วยที่คนส่วนใหญ่ในประเทศทั้งหมดนั้นก็นับถือเฮ่าเทียนเช่นกัน ทำให้ซีหลิงนั้นมีอิทธิพลมากในการจะทำอะไรก็ตาม เรียกว่าเหมือน นครวาติกัน สมัยยุคกลางแหละครับ คือไม่ว่าประเทศคุณจะยิ่งใหญ่แค่ไหนสุดท้ายคุณก็ยังต้องให้การนับถือพระสันตะปาปา โบสถ์บอกว่าใครเป็นแม่มดคนนั้นก็คือแม่มด โบสถ์สั่งให้เผาแม่มด คนเหล่านั้นก็จะโดนเผา โดยอ้างว่าทุกอย่างเป็นลิขิตของพระเจ้า เรียกว่าซีหลิงมีสิทธิ์ทำอะไรก็ได้ในแคว้นไหนก็ได้เลย
สำนักอักษร: สำนักอักษรนั้นถือเป็นสำนักฝึกตนอันดับหนึ่งตั้งอยู่ที่แคว้นถัง มี “จอมปราชญ์” เป็นเจ้าสำนัก และมีศิษย์โดยตรงอีกทั้งหมด 12 คน (หนิงเชวียเป็นคนที่ 13 และคนสุดท้าย) โดยจอมปราชย์ และศิษย์ทั้ง 12 คนนั้นถือว่าเป็นผู้ที่มีวิชาแข็งแกร่งในแผ่นดินหา

คนเทียบได้ยาก แต่มักจะไม่เข้าไปยุ่งกับเรื่องราวของโลกภายนอกสักเท่าไหร่
อารามจือโส่ว: จัดเป็นสำนักสงฆ์ จุดเด่นคือมีตำราวิเศษมากมายอยู่ในอารามที่สามารถบอกความเป็นไปของโลก ให้คำทำนาย แจ้งความเป็นไป มีแม้แต่ตำหรับยาวิเศษ
พรรคมาร: สำหรับพรรคมารนั้นไม่ใช่พรรคมารจริงๆ หรอก ในเรื่องเราเอาไว้เรียกชนเผ่าเร่ร่อน(เหมือนพวกคนป่า) ว่าพรรคมารเพราะคนเหล่านี้จะมีพื้นฐานวิชาที่ต่างออกไป แทนที่จะขอยืมพลังจากธรรมชาติ กลับดูดกลืนพลังธรรมชาติจากคนอื่นมาใช้เป็นพลังตนเอง

 

รีวิว สยบฟ้าพิชิตปฐพี

 

ข้อมูลที่ควรรู้ก่อนเริ่มดู

[ขั้นอาชีพ ลำดับชั้นของวิชา] ในสยบฟ้าฯนั้น แบ่งคนออกเป็น 2 กลุ่มคือ 1.คนธรรมดา และ 2.ผู้ฝึกตน(หรือจะเรียกว่าจอมยุทธ์ก็คงไม่ผิด) ทีนี้ผู้ฝึกตนก็จะมีความถนัด และขั้นการฝึกแตกย่อยออกไปอีกได้แก่

นักกระบี่(ความถนัด): เป็นผู้ที่สั่งการกระบี่ได้ ให้บินลอยแยกร่างไปฟาดพันศัตรูได้ตามใจ
นักพลังจิต(ความถนัด): นักพลังจิตจะใช้จินตนาการบังคับพลังจิตของเขาในการทำสิ่งต่างๆ แม้แต่สู้รบ มีคนพูดว่าถ้าลำดับขั้นเท่าๆ กัน นักพลังจิต จะสู้ได้เปรียบ นักกระบี่อยู่ไม่น้อย
นักยันต์(ความถนัด): นักยันต์จะต้องวาดยันต์ออกมาในอากาศก่อน แล้วค่อยให้พลังของยันต์นั้นๆ ได้ โดยอนุภาพจะรุนแรงกว่านักพลังจิต
นักยันต์เทพ(ความถนัด): เทพสุดใน 4 ความถนัดจัดเป็นบุคคลหายาก แต่หนิงเชวียของเรามีคุณสมบัตินี้เพราะลายมือสวย

ลำดับขั้นของผู้ฝึกตน ไม่ว่าความถนัดไหนก็ต้องฝึกให้บรรลุตามนี้ โดย 5 ขั้นแรกจะมีดังนี้ (สำหรับมนุษย์)
1.ขั้นแรก
2.ขั้นสัมผัส
3.ขั้นไม่หลง
4.ขั้นเข้าถึง
5.ขั้นรู้ชะตา
ลำดับขั้น 4 ขั้นแรกไม่ต้องสนใจมันเป็นชื่อที่เขาเอาไว้เรียกเฉยๆ แต่ขั้นรู้ชะตานั้นต่างออกไป ว่ากันว่ามันทำให้เรารู้ลิขิต อย่างไรก็ตามผู้ที่ “อยู่ใน” ขั้นรู้ชะตานี้ก็มีความกว้างของขั้นอยู่ คือคนที่มาอยู่ขั้นนี้มีความแตกต่างกันเยอะมากเพราะถือเป็นขั้นสูงสุดของมนุษย์ ถ้าหากใครสามารถบรรลุเกินขั้น “รู้ชะตา” ขึ้นไปได้ก็เปรียบเหมือนเซียนดีๆ นี่เอง (คือเกินมนุษย์ละ บางคนสามารถวาร์ปไปที่ไหนก็ได้เป็นต้น) รีวิวหนังจีน

เนื้อเรื่องเกาะติดชีวิต และการตามแก้แค้นของเด็กหนุ่ม “หนิงเชวี่ย” และสาวใช้ตัวน้อย “ซังซัง” หนิงเชวี่ยเป็นผู้รอดชีวิตหนึ่งเดียวจากการฆ่าล้างตระกูลของจวนแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นถัง หลังจากรอดชีวิตเขาก็ได้ช่วยเหลือเด็กทารกอีกคนมาจากกองศพ นั่นก็คือซังซัง เขาตั้งชื่อให้ทารกหญิงว่า “ซังซัง” เพราะนางมีปานรูปใบซังอยู่ที่เท้า เขาเลี้ยงดูทารกน้อยด้วยตัวเองในฐานะสาวรับใช้ของเขาโดยอาศัยเงินเลี้ยงชีพจากการล่าโจรภูเขา หนิงเชวี่ยได้ฉายาว่า คนตัดฟืนแห่งทะเลสาปซูปี้ เพราะเขาตัดหัวพวกโจรได้อย่างง่ายดาย เหมือนตัดฟืน หนิงเชวี่ยและซังซัง ดิ้นรนเข้ามาอยู่ในเมืองหลวงหวังจะแก้แค้น ทั้งคู่ได้เปิดร้านขายหนังสืออักษร เนื่องจากหนิงเชวี่ยเขียนตัวหนังสือได้งดงาม มีพลังมาก (ลูกผู้ชาย ลายมือ นั้นคือยศจริง ๆ ) และเขาก็ฝ่าฝันจนได้เป็นศิษย์สำนักอักษร สำนักที่เลื่องชื่อในยุทธภพ และได้เป็นถึงศิษย์ชั้น 2 ของหลังเขาซึ่งเป็นศิษย์สายตรงของจอมปราชญ์ เจ้าสำนักอีกด้วย

เห็นบางคนบ่นว่ารื่องนี้น่าจะเปลี่ยนนางเอกเพราะหน้าตาไม่เหมาะ  ไม่สวยพอ

แต่ถ้าอ่านนิยาย จะรู้ว่า ซ่งอี้เหรินเป็นซังซังที่หน้าตาน่ารักเกินนิยายด้วยซ้ำ  ในนิยายซังซังนอกจากจะไม่สวยแล้วยังตัวดำด้วย ถ้าจะเอาตามนิยายเป๊ะ คนดูจะยี้แน่นอน

หวัง ความกวนเกรียนสู้ เฉินเฟยอวี่ ไม่ได้  หนิงเชวียต้องกวนกว่านี้  (เป็นพระเอกที่เกรียนและเห็นแก่ตัวมาก ใครจะเป็นจะตายช่างมัน ขอให้ตัวเองกะซังซังรอด เป็นพอ)